ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผันผวน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งในสหรัฐและยุโรป ซึ่งความกังวลดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากข่าวการอนุมัติวัคซีนต้านโควิด-19 ในสหรัฐ
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 26,648.83 จุด ลดลง 83.61 จุด, -0.31% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 26,218.60 จุด ลดลง 170.92 จุด, -0.65% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,669.87 จุด เพิ่มขึ้น 7.13 จุด, +0.43%
นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยล่าสุด นายแอนดรูว์ คัวโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กได้ออกคำสั่งห้ามการรับประทานอาหารในร้านในกรุงนิวยอร์กซิตี้ โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เมื่อวานนี้
นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการเจรจามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ ขณะที่สื่อต่างประเทศรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า สมาชิกพรรครีพับลิกันและเดโมแครตได้เห็นพ้องที่จะแยกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9.08 แสนล้านดอลลาร์ออกเป็นร่างกฎหมาย 2 ฉบับเพื่อเพิ่มโอกาสในการได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรส โดยฉบับแรกจะมีวงเงิน 7.48 แสนล้านดอลลาร์เพื่อเยียวยาผู้ที่ตกงานและธุรกิจขนาดย่อมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ขณะที่อีกฉบับหนึ่งจะมีวงเงิน 1.60 แสนล้านดอลลาร์เพื่อให้ความช่วยเหลือมลรัฐต่างๆ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 15-16 ธ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) จากปัจจุบันที่ระดับ 8 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน