ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากสัญญาณความคืบหน้าในการเจรจาข้อตกลงการค้าระหว่างอังกฤษและสหภาพยุโรป (EU) และความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหลังจากที่เริ่มมีการฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ให้กับประชาชนในประเทศต่างๆ
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,570.91 จุด เพิ่มขึ้น 57.59 จุด หรือ +0.88%
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ขานรับความหวังเกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างอังกฤษและ EU หลังนางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของ EU กล่าวว่า การเจรจาการค้าระหว่างอังกฤษและ EU มีความคืบหน้า และอาจนำไปสู่การทำข้อตกลงการค้าที่จะมีผลบังคับใช้หลังจากที่อังกฤษแยกตัวออกจาก EU (Brexit) ในวันที่ 1 ม.ค.2564
ตลาดยังได้แรงหนุนจากผลสำรวจทางธุรกิจที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจของอังกฤษกลับมามีการขยายตัวในเดือนธ.ค.หลังจากที่มีการล็อกดาวน์ 4 สัปดาห์ในเดือนพ.ย.
ไอเอชเอส มาร์กิต/ซีไอพีเอสเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคบริการและภาคการผลิตของอังกฤษเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 50.7 ในเดือนธ.ค. จาก 49.0 ในเดือนพ.ย. ซึ่งดัชนี PMI ที่สูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคบริการและภาคการผลิตยังคงมีการขยายตัว
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่ดีดตัวขึ้นขานรับแนวโน้มที่จะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วๆ นี้