ดัชนีดาวโจนส์พลิกดีดตัวสู่แดนบวก ขณะที่นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในอังกฤษ หลังจากที่ผู้เชี่ยวชาญแสดงความเชื่อมั่นว่าวัคซีนในปัจจุบันสามารถต้านไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่
นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับข่าวที่ว่าแกนนำในสภาคองเกรสสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9 แสนล้านดอลลาร์
ณ เวลา 01.05 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 30,202.30 จุด บวก 23.25 จุด หรือ 0.08% หลังจากดิ่งลงกว่า 300 จุดในช่วงแรก
การพุ่งขึ้นของหุ้นไนกี้ และหุ้นกลุ่มธนาคารช่วยหนุนตลาดในวันนี้
ผู้เชี่ยวชาญต่างแสดงความเชื่อมั่นว่าวัคซีนในปัจจุบันจะสามารถต้านไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ หลังจากที่ทั่วโลกพากันตื่นตระหนกเกี่ยวกับการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในอังกฤษ ซึ่งทำให้มีการแพร่เชื้อรวดเร็วกว่าเดิมถึง 70%
ขณะนี้ สำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ได้อนุมัติเป็นการฉุกเฉินสำหรับวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ และโมเดอร์นา อิงค์
ผู้ช่วยศาสตราจารย์วิน กุปตา จากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน กล่าวว่า เขามีความเชื่อมั่นว่าวัคซีนที่ได้รับการอนุมัติในขณะนี้จะให้การป้องกันไวรัสโควิด-19 ได้หลายสายพันธุ์
"ผมมีความเชื่อว่าวัคซีนที่เรามีในขณะนี้จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสสายพันธุ์ใหม่จากอังกฤษ นอกเหนือจากสายพันธุ์เดิมที่เราได้ทำการศึกษามานานหลายเดือน"
"วัคซีนเหล่านี้มีประสิทธิภาพเป็นพิเศษในการผลิตแอนติบอดีที่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งผมไม่คิดว่าการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในระดับยีนของไวรัสจะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของวัคซีนในระยะใกล้" เขากล่าว
อย่างไรก็ดี ผู้ช่วยศาสตราจารย์กุปตากล่าวว่า ผู้ผลิตวัคซีนรุ่นใหม่อาจจะต้องทำการปรับปรุงเพื่อให้รองรับไวรัสสายพันธุ์ใหม่ เช่นเดียวกับการผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่ต้องมีการปรับปรุงเช่นกัน
ทางด้านนายแพทย์วิเวก เมอร์ธี ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อจากนายโจ ไบเดน ให้เป็นว่าที่เจ้ากรมการแพทย์ทหารสหรัฐ ก็ได้แสดงความเชื่อมั่นต่อวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 เช่นกัน
"ไม่มีเหตุผลที่จะเชื่อว่าวัคซีนจะไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสสายพันธุ์อังกฤษ และยังไม่มีหลักฐานแสดงว่าไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวมีความร้ายแรงมากกว่าสายพันธุ์เดิม"
"สำหรับประชาชนทั่วไป การสวมหน้ากากอนามัย การรักษาระยะห่างทางสังคม และการหมั่นล้างมือ ยังคงเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19" นายแพทย์เมอร์ธีกล่าว
นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับการที่แกนนำในสภาคองเกรสสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9 แสนล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ แกนนำในสภาคองเกรสสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9 แสนล้านดอลลาร์ในเช้าวันนี้ตามเวลาไทย โดยมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นายมิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน และนายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครต ได้ประกาศการบรรลุข้อตกลงดังกล่าว โดยนายแมคคอนเนลล์กล่าวว่า "หลังจากการเจรจากันเป็นเวลานาน แกนนำในสภาคองเกรสจากทั้งสองพรรคก็สามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันในที่สุด"
สภาคองเกรสจะลงมติต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าวในวันนี้ รวมทั้งร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อช่วยให้หน่วยงานของรัฐบาลสามารถเปิดดำเนินการต่อไปจนถึงวันที่ 21 ธ.ค.