ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 ธ.ค.) โดยดีดตัวขึ้นขานรับความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้าระหว่างอังกฤษและสหภาพยุโรป (EU) และการอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งได้ช่วยคลายความวิตกที่ว่า เศรษฐกิจโลกจะได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้นจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่พบในอังกฤษ
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 1.18% ปิดที่ 391.25 จุด
ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,466.86 จุด เพิ่มขึ้น 73.52 จุด หรือ +1.36%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,418.11 จุด เพิ่มขึ้น 171.81 จุด หรือ +1.30% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,453.16 จุด เพิ่มขึ้น 36.84 จุด หรือ +0.57%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 6 สัปดาห์ โดยดีดตัวขึ้นหลังจากร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันจันทร์ เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีความหวังว่าอังกฤษและ EU จะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากันได้
แหล่งข่าวจากนักการทูตของ EU กล่าวว่า EU พร้อมที่จะขยายเวลาเจรจาการค้ากับอังกฤษต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า
"การเจรจามีความคืบหน้า โดยอังกฤษและ EU สามารถบรรลุข้อตกลงในประเด็นส่วนใหญ่ ยกเว้นในเรื่องประมงที่ทั้งสองฝ่ายยังคงมีความขัดแย้งกัน แต่ EU ยังไม่ปิดประตูเจรจากับอังกฤษ และจะยังคงทำการเจรจาหลังวันที่ 1 ม.ค." นักการทูตรายหนึ่งกล่าว
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9 แสนล้านดอลลาร์
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มธนาคารนำตลาดปรับตัวขึ้น ขณะที่หุ้นกลุ่มวัสดุลดลงตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์