ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 ม.ค.) แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2563 นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มพลังงาน เนื่องจากนักลงทุนมีความหวังว่าสหรัฐจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น และราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นหลังซาอุดีอาระเบียตกลงที่จะปรับลดการผลิตน้ำมันลงมากกว่าคาด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,841.86 จุด เพิ่มขึ้น 229.61 จุด หรือ +3.47%
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 3 แล้ว โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคาร อาทิ เอชเอสบีซี, บาร์เคลยส์ และสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ซึ่งพุ่งขึ้นราว 8-9.6%
นักลงทุนขานรับความหวังว่าพรรคเดโมแครตจะชนะการเลือกตั้งวุฒิสภาในรัฐจอร์เจีย ซึ่งหากชนะ ก็จะได้ครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐ ซึ่งจะทำให้นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่สามารถผลักดันมาตรการกระตุ้นด้านการคลังได้ง่ายดายมากขึ้น
หุ้นกลุ่มน้ำมัน อาทิ หุ้นบีพีและหุ้นเชลล์ พุ่งขึ้นด้วย หลังราคาน้ำมันดิบทะยานขึ้นขานรับข่าวที่ว่า ซาอุดีอาระเบียสมัครใจจะลดการผลิตน้ำมันลดลง 1 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนก.พ.และมี.ค.