ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 200 จุด ทะลุแนว 31,000 จุดในวันนี้ ขานรับสภาคองเกรสที่ได้ประกาศรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐของนายโจ ไบเดนอย่างเป็นทางการ ก่อนที่เขาจะเข้าพิธีสาบานตนในวันที่ 20 ม.ค.
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ให้คำมั่นว่า กระบวนการถ่ายโอนอำนาจประธานาธิบดีจะเป็นไปอย่างสงบเรียบร้อย
ณ เวลา 22.07 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 31,061.33 จุด บวก 231.93 จุด หรือ 0.75%
ทั้งนี้ สภาคองเกรสให้การรับรองชัยชนะของนายไบเดน หลังจากที่เขาได้รับคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งไม่ต่ำกว่า 270 เสียง ซึ่งเป็นขั้นต่ำสุดที่จะคว้าชัยชนะในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ แม้ว่าการนับคะแนนได้หยุดชะงักลงก่อนหน้านี้ เนื่องจากถูกขัดขวางจากกลุ่มผู้สนับสนุนปธน.ทรัมป์ที่บุกเข้าไปยังอาคารรัฐสภา
ทางด้านปธน.ทรัมป์ยืนยันในวันนี้ว่า กระบวนการถ่ายโอนอำนาจประธานาธิบดีจะเป็นไปอย่างสงบเรียบร้อย
"แม้ผมไม่เห็นด้วยกับผลการเลือกตั้ง ซึ่งข้อเท็จจริงก็ยืนยันให้ผมได้ แต่อย่างไรก็ตาม การถ่ายโอนอำนาจจะเป็นไปอย่างสงบเรียบร้อยในวันที่ 20 มกราคม" แถลงการณ์ระบุ
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทยังได้ปัจจัยบวกจากการที่พรรคเดโมแครตคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภารอบสองในรัฐจอร์เจีย ซึ่งทำให้ทางพรรคสามารถครองอำนาจเบ็ดเสร็จทั้งในทำเนียบขาว วุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะเอื้อต่อการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่เพื่อเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19 หลังจากที่ถูกขัดขวางก่อนหน้านี้จากปธน.ทรัมป์
ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 787,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว จากระดับ 790,000 รายที่มีการรายงานในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ โดยเป็นการปรับตัวลง 3 สัปดาห์ติดต่อกัน
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 815,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า สหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 50,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 6.8%
เมื่อเดือนที่แล้ว กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 245,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 440,000 ตำแหน่ง และต่ำกว่าระดับ 610,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 6.7% ในเดือนพ.ย. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากแตะระดับ 6.9% ในเดือนต.ค.