ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (27 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น และการขยายมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดในประเทศ
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,567.37 จุด ลดลง 86.64 จุด หรือ -1.30%
ตลาดถูกกดดันหลังจากนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษระบุว่า มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโควิดในอังกฤษจะดำเนินไปจนถึงวันที่ 8 มี.ค. และจะประกาศมาตรการคุมเข้มชายแดนรอบใหม่เพื่อสกัดกั้นไม่ให้ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ระบาดเข้าประเทศ
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่ยอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ของอังกฤษพุ่งขึ้นทะลุระดับ 100,000 ราย
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ และกลุ่มก่อสร้าง ร่วงลงมากที่สุด ขณะที่หุ้นแอสตร้าเซนเนก้า ร่วงลงเกือบ 2.2%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ อาทิ ริโอ ทินโตและแองโกล อเมริกัน ถ่วงตลาดลง หลังราคาสังกะสีร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 เดือน เนื่องจากสต็อกเพิ่มขึ้นและอุปสงค์ในจีนลดลง
หุ้นเฟรสนิลโล ร่วงลง 13.04% หลังคาดการณ์การผลิตทองคำลดลง
หุ้นกลุ่มค้าปลีกของอังกฤษปรับตัวลงด้วย หลังมีรายงานราคาค้าปลีกลดลงรายปีมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2563 ซึ่งเพิ่มแรงกดดันต่อภาคธุรกิจค้าปลีก