ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงกว่า 300 จุดในช่วงเช้านี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับกรณีการปั่นหุ้น GameStop ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายวิดีโอเกมชื่อดังในสหรัฐ โดยในช่วงเช้านี้ ราคาหุ้น GameStop กลับมาดีดตัวขึ้นกว่า 61% หลังจากที่ปิดตลาดทรุดตัวลงกว่า 44% เมื่อคืนนี้
ณ เวลา 11.38 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลง 302 จุด หรือ -0.99% แตะที่ 30,205 จุด
นักลงทุนกังวลว่า หากราคาหุ้น GameStop ยังคงพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็อาจจะสร้างความเสียหายให้กับกลุ่มเฮดจ์ฟันด์ หลังจากกลุ่มนักลงทุนใน WallStreetBets ซึ่งเป็นบอร์ดย่อยใน Reddit ซึ่งเป็นเว็บบอร์ดที่มีสมาชิกกว่า 4 ล้านราย ได้เล็งเป้าหมายที่จะผลักดันราคาหุ้น GameStop ให้สูงขึ้นเพื่อกดดันให้เฮดจ์ฟันด์ต้องกลับเข้าซื้อคืนหุ้นดังกล่าวเพื่อตัดขาดทุน หลังจากที่ได้ทำชอร์ตเซลไปก่อนหน้านี้ เนื่องจากคาดการณ์ว่า GameStop จะต้องปิดกิจการในไม่ช้า
ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวของนักลงทุนรายย่อยทำให้กองทุนเฮดจ์ฟันด์ประสบภาวะขาดทุนจำนวนมาก
ทางด้านสภาคองเกรสของสหรัฐจะจัดการไต่สวนเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นสหรัฐ โดยการไต่สวนจะครอบคลุมถึงกรณีการขายชอร์ต, แพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ และผลกระทบในเชิงระบบที่จะมีต่อตลาดทุนและนักลงทุนรายย่อย
นางแม็กซีน วอเตอร์ส ส.ส.พรรคเดโมแครตซึ่งจะทำหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมการไต่สวนเปิดเผยว่า "เราต้องจัดการกับกลุ่มเฮดจ์ฟันด์ที่มีส่วนทำให้ตลาดหุ้นผันผวนอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา และเราต้องตรวจสอบตลาดในภาพรวม รวมทั้งตรวจสอบดูว่าเพราะเหตุใดกลุ่มเฮดจ์ฟันด์จึงเข้ามาปั่นตลาดได้ นอกจากนี้ เราจะตรวจสอบบรรดาผู้ที่จะได้ประโยชน์ทางการเงินจากบรรดาเฮดจ์ฟันด์ด้วย"