ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (29 ม.ค.) และปรับตัวลงรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2563 เนื่องจากนักลงทุนกังวลกับความล่าช้าในการส่งมอบวัคซีนต้านโรคโควิด-19 และมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ซึ่งส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,407.46 จุด ร่วงลง 118.69 จุด หรือ -1.82%
บรรดานักลงทุนวิตกว่า เศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างล่าช้า เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโรคโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
หุ้นกลุ่มพลังงานและเหมืองแร่ถ่วงตลาดลงมากที่สุดในสัปดาห์นี้ หุ้นเชลล์ ปิดวันศุกร์ร่วง 2.11%, หุ้นบีพี ลดลง 1.81% และหุ้นแองโกล อเมริกัน ลดลง 1.31%
หุ้นแอสตร้าเซนเนก้าร่วงลง 3.7% ในรอบสัปดาห์นี้ และถ่วงตลาดลงมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ในวันศุกร์ หลังบริษัทแถลงว่า วัคซีนต้านโรคโควิด-19 ที่ทางบริษัทพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด จะมีการส่งมอบไปยังสหภาพยุโรป (EU) ต่ำกว่าเป้าหมายไปจนถึงปลายเดือนมี.ค. อันเนื่องจากปัญหาด้านการผลิต โดยคาดว่าจะมีการลดปริมาณการส่งมอบวัคซีนลง 60% เหลือเพียง 31 ล้านโดส
หุ้นพรูเดนเชียล ซึ่งเป็นบริษัทประกันชีวิต ร่วง 5.14% และดิ่งลงเกือบ 16% ในสัปดาห์นี้ หลังจากบริษัทเปิดเผยแผนเพิ่มทุน ขณะที่โบรกเกอร์รายใหญ่ อาทิ ดอยซ์แบงก์, ยูบีเอส และแบงก์ ออฟ อเมริกา ต่างปรับลดราคาเป้าหมายของหุ้นพรูเดนเชียล