ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (2 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับความหวังที่ว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวเร็วขึ้น หลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส และบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ของยุโรปรายงานแนวโน้มธุรกิจที่ดีขึ้น
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 405.92 จุด เพิ่มขึ้น 5.15 จุด หรือ +1.29%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,563.11 จุด เพิ่มขึ้น 101.43 จุด, +1.86%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,835.16 จุด เพิ่มขึ้น 213.14 จุด, +1.56% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,516.65 จุด เพิ่มขึ้น 50.23 จุด, +0.78%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันหลังร่วงลงอย่างหนักในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยตลาดได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจของยูโรโซนหดตัวลงน้อยกว่าคาดในไตรมาส 4/2563 เนื่องจากเยอรมนี และสเปน ยังคงมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจเล็กน้อย
การคาดการณ์ผลประกอบการที่แข็งแกร่งจากบริษัทแอมะซอนและอัลฟาเบท รวมถึงความหวังเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์เป็นแรงหนุนตลาดหุ้นยุโรปด้วย
นอกจากนี้ การร่วงลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ อาทิ โลหะเงิน และราคาหุ้นบางตัว อาทิ GameStop ได้ช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับการขาดทุนของเฮดจ์ฟันด์ที่ทำการขายชอร์ตสินค้าโภคภัณฑ์และหุ้นต่างๆ ไว้ ซึ่งการขาดทุนดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อตลาดโดยรวม
หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหรา อาทิ หลุยส์วิตตอง และเคอริ่ง พุ่ง 3.4% และ 1% ตามลำดับ หลังบริษัทบีเรนเบิร์กซึ่งเป็นบริษัทโบรกเกอร์แนะนำซื้อหุ้นดังกล่าว โดยบ่งชี้ถึงแนวโน้มอุปสงค์สินค้าหรูหราในระยะยาว
หุ้นแอร์บัส พุ่ง 6.59% หลังมอร์แกน สแตนเลย์ ปรับเพิ่มแนวโน้มการผลิตเครื่องบิน