ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (4 ก.พ.) โดยถูกกดดันจากการที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.10% และระบุว่าเศรษฐกิจของอังกฤษอาจหดตัวลง 4% ในไตรมาสแรกของปีนี้
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,503.72 จุด ลดลง 4.10 จุด หรือ -0.063%
ตลาดปรับตัวลง หลัง BoE ประกาศตรึงดอกเบี้ยและคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 8.95 แสนล้านปอนด์ (1.2 ล้านล้านดอลลาร์) เพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่หุ้นยูนิลีเวอร์ ร่วงลง 6.2% หลังรายงานเป้าหมายการขยายตัวของยอดขายต่ำกว่าที่นักลงทุนคาดไว้
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามราคาน้ำมัน ซึ่งส่งผลถ่วงตลาดลงด้วย โดยหุ้นบีพี ลดลง 1.30% และหุ้นเชลล์ ร่วง 2.01%
รอยัล ดัทช์ เชลล์ บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่สัญชาติดัทช์และอังกฤษ ประกาศผลกำไรปี 2563 ร่วงลงอย่างหนัก เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่ออุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซทั่วโลก
เชลล์รายงานผลกำไรที่ปรับแล้วอยู่ที่ 4.85 พันล้านดอลลาร์ในปี 2563 ลดลงจากระดับผลกำไรในปี 2562 ที่ 1.65 หมื่นล้านดอลลาร์ และต่ำกว่าที่ Refinitiv คาดการณ์ไว้ที่ 5.15 พันล้านดอลลาร์ โดยผลกำไรปี 2563 ของเชลล์เป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 20 ปี