ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นในคืนนี้ ขานรับคาดการณ์ที่ว่าสหรัฐจะเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ต่ำกว่าคาด
ณ เวลา 19.05 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 122 จุด หรือ 0.39% สู่ระดับ 31,164 จุด
ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้น 3.9% ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการทะยานขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบรายสัปดาห์นับตั้งแต่เดือนพ.ย.2563 และทำสถิติช่วงขาขึ้นยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปีที่แล้ว
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานเมื่อวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 49,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 50,000 ตำแหน่ง
ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 6.3% ในเดือนม.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะทรงตัวที่ระดับ 6.7%
ประธานาธิบดีโจ ไบเดนกล่าวว่า ตัวเลขการจ้างงานที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นที่สภาคองเกรสจะต้องรีบเร่งอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ
ปธน.ไบเดนกล่าวว่า หากสหรัฐยังคงมีการสร้างงานในอัตราปัจจุบัน ก็จะต้องใช้เวลาถึง 10 ปีกว่าที่จะกลับไปสู่ภาวะการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ และสิ่งนี้ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่สภาคองเกรสจะต้องเร่งผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาชาวอเมริกันและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ แสดงความเชื่อมั่นว่า การจ้างงานในสหรัฐจะกลับมาขยายตัวได้อย่างเต็มศักยภาพอีกครั้งในปี 2565 หากสภาคองเกรสให้การอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน
นางเยลเลนยังกล่าวด้วยว่า หากรัฐบาลสหรัฐไม่ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม อัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า และอาจต้องใช้เวลานานจนถึงปี 2568 กว่าที่อัตราว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 4% อีกครั้ง