ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 ก.พ.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขคนว่างงานรายสัปดาห์ที่สูงกว่าคาด อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนบวก โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี รวมทั้งความหวังเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,430.70 จุด ลดลง 7.10 จุด หรือ -0.02% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,916.38 จุด เพิ่มขึ้น 6.50 จุด หรือ + 0.17% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,025.77 จุด เพิ่มขึ้น 53.24 จุด หรือ +0.38%
ดัชนีดาวโจนส์อ่อนแรงลงหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกอยู่ที่ระดับ 793,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งแม้ว่าต่ำกว่าระดับ 812,000 รายที่มีการรายงานในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ แต่ก็สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 760,000 ราย
อย่างไรก็ดี ดาวโจนส์ขยับลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายโดยรวมยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากความหวังเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนส่วนหนึ่งยังมองว่า ข้อมูลแรงงานที่ซบเซาเมื่อคืนนี้อาจจะช่วยผลักดันให้รัฐบาลสหรัฐเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เร็วขึ้น เนื่องจากผลกระทบของมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 ทำให้ภาคเอกชนปลดพนักงานจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา
หุ้น 7 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปรับตัวลง นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 1.52% โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ดิ่งลง 2.5% หุ้นเชฟรอน ลดลง 0.54% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ร่วงลง 1.69%
ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น 1.09% โดยหุ้นไมครอน เทคโนโลยี พุ่งขึ้น 5.02% หุ้นอินเทล พุ่งขึ้น 3.06% หุ้น Nvidia พุ่งขึ้น 3.3% หุ้นไมโครซอฟท์ บวก 0.69%
หุ้นแบงก์ ออฟ นิวยอร์ก เมลลอน ดีดตัวขึ้น 0.93% หลังจากธนาคารเปิดเผยแผนการถือครอง, โอน และออกสกุลเงินบิตคอยน์ และสกุลเงินคริปโตอื่นๆ ในนามของลูกค้าในกลุ่มบริหารจัดการสินทรัพย์ในปีนี้
หุ้นมาสเตอร์การ์ด พุ่งขึ้น 2.59% หลังจากบริษัทประกาศแผนนำเสนอการทำธุรกรรมด้วยสกุลเงินคริปโตบางสกุลบนแพลตฟอร์มของบริษัทในปีนี้ เช่นเดียวกับบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งที่เริ่มนำสกุลเงินคริปโตมาใช้ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ซึ่งรวมถึงบริษัทเทสลาของนายอีลอน มัสก์
ราคาหุ้นของบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับ cannabis ซึ่งเป็นพืชในสกุลกัญชงและกัญชา ร่วงลงเมื่อคืนนี้ หลังจากพุ่งขึ้นเมื่อวันพุธจากแรงซื้อของนักลงทุนรายย่อยกลุ่มเดียวกับที่เคยปั่นราคาหุ้น GameStop ก่อนหน้านี้ โดยหุ้น Tilray ทรุดตัวลง 49.68% หุ้น Aphria ร่วงลง 35.99% หุ้น Aurora Cannabis ดิ่งลง 23.58% และหุ้น Canopy Growth ร่วงลง 22.02%
ก่อนหน้านี้ นักลงทุนรายย่อยในห้อง WallStreetBets ซึ่งมีสมาชิกกว่า 7.6 ล้านรายบนเว็บบอร์ด Reddit ต่างโพสต์ข้อความชักชวนสมาชิกรายอื่นให้เข้าซื้อหุ้นกลุ่ม cannabis โดยเชื่อมั่นว่าหุ้นกลุ่มดังกล่าวจะดีดตัวขึ้น จากการคาดการณ์ที่ว่ารัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะออกกฎหมายเพื่อให้มีการนำ cannabis มาใช้ได้อย่างถูกกฎหมาย