ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (12 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนมีความหวังว่า รัฐบาลสหรัฐจะออกมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นให้เศรษฐกิจฟื้นตัวเร็วขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานที่บ่งชี้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในสหรัฐเริ่มลดลง และมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคเพิ่มมากขึ้น
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,458.40 จุด เพิ่มขึ้น 27.70 จุด หรือ +0.1%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,934.83 จุด เพิ่มขึ้น 18.45 จุด หรือ +0.47% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,095.47 จุด เพิ่มขึ้น 69.70 จุด หรือ +0.50%
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 1%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 1.2% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 1.7%
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นว่าสภาคองเกรสสหรัฐจะออกมาตรการกระตุ้นด้านการคลังครั้งใหม่เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัว นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ และการเปิดเผยรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนของสหรัฐที่ดีเกินคาด
บรรดานักลงทุนมีความหวังว่า สภาคองเกรสจะอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินใกล้เคียงกับที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เสนอที่ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับแนวโน้มที่การฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในสหรัฐอาจจะสูงเกินเป้าหมายของปธน.ไบเดนซึ่งเขาต้องการฉีดวัคซีนโควิดให้กับประชาชน 100 ล้านโดสภายใน 100 วันแรกที่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี โดยมีการฉีดวัคซีนไปมากกว่า 26 ล้านโดสแล้วในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ชาวอเมริกันราว 34.7 ล้านคนจาก 331 ล้านคนได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสแรกแล้ว
หุ้นกลุ่มพลังงาน, การเงิน และวัสดุ ปรับตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเพราะมีความหวังว่า หุ้นกลุ่มเหล่านี้จะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มพลังงานยังได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 12 เดือน และหุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้นด้วย โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐระยะยาวที่ดีดตัวขึ้น
ทั้งนี้ ตลาดไม่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐที่ลดลงเกินคาดสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน โดยผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 76.2 ในช่วงครึ่งแรกของเดือนก.พ. จากระดับ 79 ในเดือนม.ค. ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดไว้ว่า ดัชนีดังกล่าวจะขยับขึ้นเล็กน้อยแตะ 80.8
ส่วนการซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐเป็นไปอย่างซบเซาในวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนวันหยุดยาว โดยตลาดหุ้นสหรัฐจะปิดทำการในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ (15 ก.พ.) เนื่องในวันประธานาธิบดี