ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผันผวน โดยตลาดบางส่วนได้รับแรงกดดันหลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีเมื่อคืนนี้ ซึ่งบดบังปัจจัยบวกจากความคาดหวังที่ว่า สภาคองเกรสสหรัฐจะอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ที่นำเสนอโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้า 30,202.71 จุด ลดลง 265.04 จุด หรือ -0.87% ส่วนดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 30,946.10 จุด เพิ่มขึ้น 199.44 จุด หรือ +0.65%
นักลงทุนมีความหวังว่า สภาคองเกรสสหรัฐจะเร่งอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อเยียวยาประชาชนและภาคเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยขณะนี้ปธน.ไบเดนกำลังผลักดันให้สภาคองเกรสอนุมัติมาตรการดังกล่าวเพื่อที่จะมอบเช็คเงินสด 1,400 ดอลลาร์แก่ชาวอเมริกัน และเพิ่มเงินชดเชยให้แก่ประชาชนที่ตกงาน
อย่างไรก็ดี ตลาดในภูมิภาคได้รับแรงกดดัน หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรประเภทอายุ 10 ปีของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 1.3276% โดยอยู่เหนือระดับ 1.3% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2563 ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่พุ่งสูงขึ้นนั้น ได้ลดความสนใจสำหรับการลงทุนในตลาดหุ้น
ทางด้านกระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานเบื้องต้นในวันนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 6.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 5.78 ล้านล้านเยน (5.45 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเดือนที่ 2 โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในจีนและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชีย