ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (17 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการที่อัตราเงินเฟ้อในอังกฤษเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนม.ค. ซึ่งอาจจะทำให้ธนาคารกลางดำเนินการคุมเข้มนโยบายการเงินตามมา
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,710.90 จุด ลดลง 37.96 จุด หรือ -0.56%
ตลาดปรับตัวลง โดยถูกกดดันหลังจากอังกฤษเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนม.ค. หลังจากอังกฤษกลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งทำให้ราคาอาหารพุ่งขึ้น รวมทั้งสินค้าในครัวเรือนปรับตัวขึ้น
บรรดานักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มขึ้น แม้นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษกำลังวางแผนที่จะยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งคาดว่าจะทำให้เศรษฐกิจอังกฤษกลับมาฟื้นตัวในอีก 5 เดือนข้างหน้า หลังจากที่มีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับประชาชนจำนวนมากแล้ว
หุ้นบริติช อเมริกัน โทแบคโค ถ่วงตลาดลงมากที่สุด โดยร่วงลง 3.95%
หุ้นริโอ ทินโต ลดลง 0.4% แม้รายงานผลประกอบการรายปีดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2554 และประกาศจ่ายเงินปันผลสูงเป็นประวัติการณ์
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มก่อสร้าง และกลุ่มการเงินปรับตัวลงด้วย