ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (18 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังกับการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนยุโรป และวิตกเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเร็วกว่าคาด เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้น และเงินยูโรแข็งค่า
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 412.70 จุด ลดลง 3.40 จุด หรือ -0.82%
ดัชนี CAC 40 ปิดที่ 5,728.33 จุด ลดลง 37.51 จุด หรือ -0.65%, ดัชนี DAX ปิดที่ 13,886.93 จุด ลดลง 22.34 จุด หรือ -0.16% และดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,617.15 จุด ลดลง 93.75 จุด หรือ -1.40%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดยหุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซนำตลาดร่วงลง แม้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นก็ตาม
ราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นทำให้มีการคาดการณ์กันว่า อัตราเงินเฟ้ออาจจะเพิ่มขึ้นมากเกินคาดในระยะสั้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการใช้จ่าย รวมทั้งจะทำให้บรรดาธนาคารกลางยกเลิกนโยบายสนับสนุนด้านการเงินเร็วกว่าคาด
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันหลังรายงานการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่บ่งชี้ว่า บรรดาผู้กำหนดนโยบายมีความวิตกเกี่ยวกับการแข็งค่าของเงินยูโร ซึ่งอาจจะกระทบต่อการส่งออกของประเทศในยูโรโซน
การเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทจดทะเบียนในยุโรปถ่วงตลาดลงด้วย โดยหุ้นแอร์บัส ร่วงลง 2.8% หลังเปิดเผยผลขาดทุนในปีที่ผ่านมา และประกาศงดการจ่ายเงินปันผล ขณะที่หุ้นออเรนจ์ ร่วง 2.6% หลังเปิดเผยผลกำไรจากการดำเนินงานในธุรกิจหลักลดลงในไตรมาส 4/2563