ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (4 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขายหุ้นออกมาจากความวิตกเกี่ยวกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นครั้งใหม่ และจากการคาดการณ์เงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น โดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ และกลุ่มเทคโนโลยีนำตลาดปรับตัวลง
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 411.91 จุด ลดลง 1.51 จุด หรือ -0.37%
ดัชนี DAX ปิดที่ 14,056.34 จุด ลดลง 23.69 จุด หรือ -0.17% และดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,650.88 จุด ลดลง 24.59 จุด หรือ -0.37% ขณะที่ดัชนี CAC 40 ปิดที่ 5,830.65 จุด เพิ่มขึ้น 0.59 จุด หรือ +0.010%
ตลาดหุ้นยุโรปถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่ร่วงลงมากที่สุด โดยหุ้นริโอ ทินโต และหุ้นบีเอชพี ร่วงลง 7.7% และ 5.8% ตามลำดับ หลังหุ้นของทั้งสองบริษัทขึ้นเครื่องหมาย XD
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ร่วงลง 3.3% ถ่วงตลาดลงด้วย ขณะที่การขาดแคลนชิปทั่วโลกถ่วงหุ้นกลุ่มนี้ และการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรกระตุ้นให้มีการขายหุ้นที่มีมูลค่าสูงออกมา
ส่วนหุ้นกลุ่มปลอดภัย อาทิ สาธารณูปโภค, อาหารและเครื่องดื่ม และอสังหาริมทรัพย์ ปรับตัวขึ้นสวนทางตลาด
หุ้นลุฟต์ฮันซา ซึ่งเป็นสายการบินของเยอรมนี ร่วงลง 3% หลังเปิดเผยยอดขาดทุนสูงเป็นประวัติการณ์ในปี 2563 และปรับลดแผนการให้บริการในปีนี้ เนื่องจากภาวะชะงักงันที่เกิดจากโรคโควิด-19 ระบาดยังคงดำเนินต่อไป