ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (8 มี.ค.) ขานรับความคืบหน้าในการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มที่คาดว่าจะได้ประโยชน์เมื่อเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มธนาคาร กลุ่มสายการบิน และกลุ่มโรงแรม อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ร่วงลงกว่า 2.4% เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,802.44 จุด เพิ่มขึ้น 306.14 จุด หรือ +0.97% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,821.35 จุด ลดลง 20.59 จุด หรือ -0.54% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,609.16 จุด ลดลง 310.99 จุด หรือ -2.41%
ดัชนีดาวโจนส์ได้รับปัจจัยบวกจากการที่วุฒิสภาสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 50 ต่อ 49 ผ่านร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยวุฒิสภาสหรัฐจะส่งกลับร่างกฏหมายที่อนุมัติแล้วให้สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐพิจารณาอีกครั้งในวันนี้ ซึ่งหากผ่านการอนุมัติ ก็จะส่งต่อไปยังประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพื่อลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายก่อนวันที่ 14 มี.ค. ซึ่งเป็นวันที่มาตรการช่วยเหลือผู้ว่างงานในปัจจุบันจะหมดอายุลง
ปธน.ไบเดนได้แสดงความหวังว่า สภาผู้แทนราษฏสหรัฐซึ่งพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก จะลงมติเห็นชอบต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับดังกล่าวโดยเร็ว เพื่อที่เขาจะได้ลงนามและส่งเงินช่วยเหลือ 1,400 ดอลลาร์ให้กับชาวอเมริกันโดยตรง
ทางด้านนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐกล่าวสนับสนุนว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของปธน.ไบเดนจะช่วยให้รัฐบาลสหรัฐมีทรัพยากรที่เพียงพอในการผลักดันให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และจะทำให้การจ้างงานของสหรัฐกลับสู่ระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ภายในปีหน้า
หุ้นกลุ่มธนาคาร กลุ่มสายการบิน และกลุ่มเรือสำราญดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่าธุรกิจในภาคส่วนดังกล่าวจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 2.08% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส ดีดขึ้น 1.33% หุ้นซิตี้กรุ๊ป พุ่งขึ้น 2.83%
หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ทะยานขึ้น 7.01% หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 4.99% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 3.59% หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป ดีดขึ้น 2.32% หุ้นรอยัล คาริบเบียน ครูซ บวก 1.52%
หุ้นกลุ่มโรงแรมพุ่งขึ้นขานรับความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเช่นกัน โดยหุ้นแมริออท อินเตอร์เนชันแนล พุ่งขึ้น 2.4% หุ้นฮิลตัน เวิลด์ไวด์ โฮลดิ้งส์ พุ่งขึ้น 2.07% หุ้นไฮแอท โฮเทล คอร์ป บวก 1.4%
หุ้นวอลท์ ดิสนีย์ ทะยานขึ้น 6.27% หลังมีรายงานว่า หน่วยงานด้านสาธารณสุขของรัฐแคลิฟอร์เนียเตรียมร่างกฎระเบียบเพื่ออนุญาตให้สวนสนุกดิสนีย์แลนด์ สนามกีฬา และสถานบันเทิงกลางแจ้ง กลับมาเปิดบริการอีกครั้งในวันที่ 1 เม.ย.นี้
หุ้น GameStop พุ่งขึ้น 41.21% หลังจากบริษัท GameStop ประกาศแต่งตั้งนายไรอัน โคเฮน เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ที่จะมุ่งเน้นธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โดยนายโคเฮนเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Chewy ซึ่งทำธุรกิจขายอาหารสัตว์ทางออนไลน์จนประสบความสำเร็จ ขณะที่ GameStop เชื่อมั่นว่าความเชี่ยวชาญด้านการขายสินค้าออนไลน์ของนายโคเฮนจะช่วยพลิกฟื้นบริษัทได้
อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ร่วงลงอย่างหนัก หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งทะลุ 1.6% เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นอัลฟาเบท ร่วงลง 4.27% หุ้นแอปเปิล ดิ่งลง 4.17% หุ้นเฟซบุ๊ก ร่วงลง 3.39% หุ้นไมโครซอท์ ร่วงลง 1.82% หุ้นหุ้นแอมะซอน ลดลง 1.62% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ดิ่งลง 4.47%
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 16-17 มี.ค.นี้ เพื่อดูท่าทีของเฟดเกี่ยวกับแนวโน้มการดีดตัวขึ้นของเงินเฟ้อที่เป็นผลมาจากการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ด้วย ซึ่งรวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนก.พ.จากสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB), อัตราเงินเฟ้อเดือนก.พ., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนม.ค., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน