ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (12 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นออกมาเพื่อทำกำไร ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่พุ่งขึ้นอีกครั้ง แต่ตลาดยังคงปรับตัวขึ้นในรอบสัปดาห์นี้โดยได้แรงหนุนจากความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งหลังมีการระดมฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 423.08 จุด ลดลง 1.09 จุด หรือ -0.26%%
ดัชนี DAX ปิดที่ 14,502.39 จุด ลดลง 67.00 จุด หรือ -0.46%, ดัชนี CAC 40 ปิดที่ 6,046.55 จุด เพิ่มขึ้น 12.79 จุด หรือ +0.21%, และดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,761.47 จุด เพิ่มขึ้น 24.51 จุด หรือ +0.36%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไรหลังปิดบวก 4 วันติดต่อกันสู่ระดับสูงสุดก่อนเกิดโรคโควิด-19 ระบาด แต่ปรับตัวขึ้น 3.5% ในรอบสัปดาห์นี้ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.
นักลงทุนเทขายหุ้นออกมาหลังจากที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรในสหรัฐและยุโรปปรับตัวขึ้นอีกครั้งในวันศุกร์ โดยนักลงทุนวิตกว่าอัตราเงินเฟ้อจะพุ่งขึ้นหลังจากการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางต่างๆ คุมเข้มนโยบายการเงินตามมา
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงมากที่สุดในยุโรป ขณะที่หุ้นกลุ่มรถยนต์และเหมืองแร่ปรับตัวลงด้วย
หุ้นเดมเลอร์ ร่วงลง 1.9% หลังบริษัทเรโนลต์เทขายหุ้นทั้งหมดในเดมเลอร์
หุ้นบีเอ็มดับบลิว ร่วง 1.3% หลังเปิดเผยผลกำไรจากการดำเนินงานในปี 2563 ลดลงจากผลกระทบของโรคโควิด-19