ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับการเปิดเผยข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอังกฤษหดตัวลงน้อยกว่าคาดในเดือนม.ค.
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,761.47 จุด เพิ่มขึ้น 24.51 จุด หรือ +0.36%
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนขานรับอังกฤษเริ่มผ่อนคลายข้อจำกัดในการควบคุมโรคโควิดระบาด และการเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นได้ในที่สุด
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจอังกฤษหดตัวลง 2.9% ในเดือนม.ค. 2564 และมีแนวโน้มหดตัว 4% ในไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าที่คาดกันไว้ก่อนหน้านี้
GDP ของอังกฤษปรับตัวได้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่า อาจจะหดตัว 4.9% ในเดือนม.ค.
หุ้นกลุ่มธนาคาร อาทิ บาร์เคลย์ส, เอชเอสบีซี, ลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป และสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ปรับตัวขึ้นราว 0.8-3.6% โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวขึ้น
หุ้นเบอเบอร์รี พุ่งขึ้น 6.9% หลังเปิดเผยยอดขายที่ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งนับตั้งแต่เดือนธ.ค. และคาดว่าบริษัทจะมีผลกำไรในปีงบการเงินที่สิ้นสุดวันที่ 27 มี.ค.