ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มรถยนต์ที่ปรับตัวขึ้น แต่หุ้นกลุ่มธนาคารยังคงลดลงหลังค่าเงินลีราของตุรกีร่วงลง และนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับการออกมาตรการจำกัดมากขึ้นเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดที่เพิ่มขึ้นของโรคโควิด-19
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 424.17 จุด เพิ่มขึ้น 0.82 จุด หรือ +0.19%
ดัชนี DAX ปิดที่ 14,657.21 จุด เพิ่มขึ้น 36.21 จุด หรือ +0.25% และดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,726.10 จุด, เพิ่มขึ้น 17.39 จุด หรือ +0.26% ขณะที่ดัชนี CAC 40 ปิดที่ 5,968.48 จุด ลดลง 29.48 จุด หรือ -0.49%
หุ้นกลุ่มรถยนต์ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 5 ซึ่งช่วยหนุนตลาดหุ้นยุโรปฟื้นตัวขึ้นจากการติดลบในช่วงแรก
หุ้นปอร์เช่ พุ่ง 8.9% จากแรงซื้อที่หนุนหุ้นโฟล์คสวาเกนทะยานขึ้นหลังจากเปิดเผยแผนที่จะแข่งขันกับบริษัทเทสลาของสหรัฐในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า
ดอยซ์ แบงก์ได้ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายหุ้นปอร์เช่ซึ่งถือหุ้นส่วนใหญ่ในโฟล์คสวาเกน หลังจากที่ได้ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายหุ้นโฟล์คสวาเกนไปก่อนหน้านี้
แต่หุ้นกลุ่มธนาคารที่ทำธุรกิจในตุรกีร่วงลง โดยถูกกดดันจากค่าเงินลีราของตุรกีที่ร่วงลงใกล้ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์หลังจากนายเรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรกีได้สั่งไล่นายนาซี แอกบาล ผู้ว่าการธนาคารกลางตุรกีออกจากตำแหน่งเมื่อวันเสาร์ (20 มี.ค.) หลังจากธนาคารกลางตุรกีปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยขึ้นสูงถึง 19% เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ