ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลง และการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มปลอดภัย ซึ่งได้ช่วยชดเชยการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์และกลุ่มการเดินทาง ขณะที่หุ้นแอสตร้าเซนเนก้าพุ่งขึ้นรับผลทดลองประสิทธิภาพวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในสหรัฐ
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,726.10 จุด เพิ่มขึ้น 17.39 จุด หรือ +0.26%
หุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคซึ่งผลประกอบการเป็นดอลลาร์ อาทิ ยูนิลีเวอร์, บริติช อเมริกัน โทแบคโค และดาอาจิโอ ปรับตัวขึ้นราว 0.3-2.5% โดยได้แรงหนุนจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลง
หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ปรับตัวขึ้นมากที่สุด โดยหุ้นแอสตร้าเซนเนก้า พุ่งขึ้น% หลังผลการทดลองในสหรัฐบ่งชี้ว่า วัคซีนที่แอสตร้าเซนเนก้าพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดมีประสิทธิภาพ 79% ในการป้องกันการติดเชื้อแบบมีอาการ และมากถึง 100% ในการป้องกันอาการติดเชื้อรุนแรงหรือต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
หุ้นคิงฟิสเชอร์ ซึ่งทำธุรกิจปรับปรุงบ้าน พุ่งขึ้น 3.6% หลังบริษัทเปิดเผยผลกำไรทั้งปีพุ่งขึ้น 44% โดยได้แรงหนุนจากความนิยมในโครงการ do-it-yourself ของบริษัทในระหว่างที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
แต่หุ้นกลุ่มการเดินทางและสันทนาการปรับตัวลงมากที่สุด อาทิ หุ้น IAG ซึ่งเป็นเจ้าของสายการบินบริติช แอร์เวย์ ร่วงลง 5.2% หลังนางเฮเลน เวทลี รมว.สวัสดิการสังคมของอังกฤษเตือนว่า ชาวอังกฤษควรรอดูก่อนที่จะจองการเดินทางช่วงวันหยุดฤดูร้อน โดยบ่งชี้ว่าอัตราการติดเชื้อโควิด-19 ในยุโรปยังคงเพิ่มขึ้น