ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 308.05 จุด วิตกผลกระทบโควิด-สหรัฐขึ้นภาษีนิติบุคคล

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 24, 2021 06:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (23 มี.ค.) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรอบใหม่ของไวรัสโควิด-19 ได้ฉุดหุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มโรงแรมดิ่งลงอย่างหนัก นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกว่ารัฐบาลสหรัฐอาจจะปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,423.15 จุด ร่วงลง 308.05 จุด หรือ -0.94% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,910.52 จุด ลดลง 30.07 จุด หรือ -0.76% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,227.70 จุด ลดลง 149.84 จุด หรือ -1.12%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า รัฐบาลสหรัฐอาจจะปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคล เพื่อระดมทุนเป็นค่าใช้จ่ายในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ซึ่งประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้ลงนามบังคับใช้เมื่อไม่นานมานี้ รวมทั้งค่าใช้จ่ายในโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานซึ่งคณะบริหารของปธน.ไบเดนกำลังพิจารณาอยู่ในเวลานี้ ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เม็ดเงินลงทุนในโครงการดังกล่าวอาจสูงถึง 3-4 ล้านล้านดอลลาร์

ทางด้านนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐได้แถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรเมื่อคืนนี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงเผชิญวิกฤตจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 พร้อมกับกล่าวสนับสนุนแผนการปรับขึ้นภาษีในวันข้างหน้า เพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในโครงการลงทุนด้านสาธารณะ โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้สร้างความกังวลในตลาด

นอกจากนี้ นักลงทุนวิตกกังวลว่า การแพร่ระบาดรอบใหม่ของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งการใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดจะส่งผลให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐและทั่วโลกเป็นไปอย่างล่าช้า โดยความกังวลดังกล่าวได้ฉุดหุ้นวัฏจักร (Cyclical Stocks) หรือหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มสายการบิน กลุ่มเรือสำราญ และกลุ่มโรงแรม

ทั้งนี้ หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ ดิ่งลง 6.55% หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ร่วงลง 6.81% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ร่วงลง 4.86% หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป ทรุดตัวลง 7.82% หุ้นรอยัล คาริบเบียน ครูซ ร่วงลง 5.70% หุ้นไฮแอท โฮเทลส์ คอร์ปอเรชั่น ร่วงลง 6.71% หุ้นแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ดิ่งลง 5.99%

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมทรุดตัวลงเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจเช่นกัน โดยหุ้นโบอิ้ง ร่วงลง 4.01% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ร่วงลง 3.46% หุ้นฮันนีเวลล์ ลดลง 1.67% หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) ดิ่งลง 3.58%

หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ทรุดตัวลงสู่เขตปรับฐาน (Correction Territory) เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ดิ่งลง 3.39% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 1.25% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ลดลง 1.01% หุ้นเชฟรอน ลดลง 0.56% หุ้นเบเกอร์ ฮิวจ์ ร่วงลง 2.74%

หุ้นไมโครซอฟท์ ดีดตัวขึ้น 0.67% หลังมีรายงานว่า ไมโครซอฟท์กำลังเจรจาเพื่อเข้าซื้อกิจการบริษัทดิสคอร์ด (Discord) คิดเป็นมูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยดิสคอร์ดเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มสำหรับเกมเมอร์ในการสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลกันผ่านทางวิดีโอ, เสียงและข้อความได้ฟรี ทั้งนี้ในช่วงที่โรคโควิด-19 ระบาดและผู้คนต้องอยู่แต่ในที่พัก ส่งผลให้มีการใช้เทคโนโลยีของดิสคอร์ดเพิ่มขึ้นทั้งการเรียนเป็นกลุ่ม และการทำกิจกรรมออนไลน์อื่นๆ

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ดิ่งลง 18.2% สู่ระดับ 775,000 ยูนิตในเดือนก.พ. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 875,000 ยูนิต โดยยอดขายบ้านใหม่ในเดือนก.พ.ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นในสหรัฐ

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ , ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.พ., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนมี.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนมี.ค.จากมาร์กิต, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, กำไรภาคเอกชนไตรมาส 4/2563, รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนก.พ., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.พ. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ