ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (1 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับรัฐบาลสหรัฐประกาศแผนการใหม่ด้านการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี้ การเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของยูโรโซนได้ช่วยหนุนตลาดด้วย
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 432.22 จุด เพิ่มขึ้น 2.62 จุด, +0.61%
ดัชนี CAC 40 ปิดที่ 6,102.96 จุด เพิ่มขึ้น 35.73 จุด หรือ +0.59%, ดัชนี DAX ปิดที่ 15,107.17 จุด เพิ่มขึ้น 98.83 จุด หรือ +0.66% และดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,737.30 จุด เพิ่มขึ้น 23.67 จุด หรือ +0.35%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น หลังไอเอชเอส มาร์กิตเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้าย พุ่งขึ้นแตะระดับ 62.5 ในเดือนมี.ค.จาก 57.39 ในเดือนก.พ. ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของยูโรโซนขยายตัวในอัตราสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบเกือบ 24 ปี
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เปิดเผยแผนใช้จ่าย 2.3 ล้านล้านดอลลาร์ในวันพุธซึ่งรวมถึงการก่อสร้างถนน, ทางรถไฟ, บรอดแบนด์, พลังงานสะอาด และการผลิตเซมิคอนดักเตอร์
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นนำตลาด ขณะที่หุ้นเกือบทุกกลุ่ม และตลาดหุ้นหลักๆของยุโรปปิดในแดนบวก
หุ้นกลุ่มชิป รวมถึง ASML, ASMI และอินฟิเนียน เทคโนโลยี ปรับตัวขึ้นตามกัน หลังบริษัทไมครอน เทคโนโลยีของสหรัฐเปิดเผยคาด การณ์รายได้ที่สดใส
นอกจากนี้ หุ้นชิปยังได้แรงหนุนจากการที่บริษัท TSMC ของไต้หวันเปิดเผยแผยที่จะลงทุน 1 แสนล้านดอลลาร์ในช่วง 3 ปีข้างหน้าเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตชิป