ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (13 เม.ย.) โดยมีปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน ไม่ว่าจะเป็นรายงานผลประกอบการ ข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐ และข่าวเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 435.75 จุด เพิ่มขึ้น 0.51 จุด หรือ 0.12%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,890.49 จุด เพิ่มขึ้น 1.37 จุด หรือ 0.02% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,234.36 จุด เพิ่มขึ้น 19.36 จุด หรือ 0.13% และดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,184.10 จุด เพิ่มขึ้น 22.42 จุด หรือ 0.36%
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้น 0.6% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นอัตราที่รวดเร็วขึ้นหลังจากปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนก.พ. โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันเบนซินที่พุ่งขึ้นถึง 9.1%
ทั้งนี้ เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI เดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 2.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสูงกว่าเดือนก.พ.ที่เพิ่มขึ้น 1.7% และเป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงของปี 2561
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี CPI เดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบรายเดือน และ 2.5% เมื่อเทียบรายปี
ขณะเดียวกัน การซื้อขายได้รับแรงกดดัน หลังจากที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) และสำนักงานอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐ ออกแถลงการณ์ร่วมกัน ระบุข้อแนะนำให้สหรัฐระงับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) เป็นการชั่วคราว ในระหว่างที่ทั้งสองหน่วยงานกำลังตรวจสอบกรณีการเกิดลิ่มเลือดอุดตันที่อาจเป็นอันตรายในผู้หญิง 6 คนที่ได้รับวัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน
ผู้เชี่ยวชาญเปิดเผยว่า แม้ข่าวเกี่ยวกับวัคซีนของ J&J จะน่าเป็นห่วง แต่ก็น่าจะเป็นปัจจัยลบระยะสั้นๆ เท่านั้น