ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกทำนิวไฮเมื่อวันศุกร์ (16 เม.ย.) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดทำนิวไฮด้วยเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจและผลประกอบการธนาคารที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,200.67 จุด เพิ่มขึ้น 164.68 จุด หรือ +0.48%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,185.47 จุด เพิ่มขึ้น 15.05 จุด หรือ +0.36% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,052.34 จุด เพิ่มขึ้น 13.58 จุด หรือ +0.10%
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ บวก 1.2%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 1.4% และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 1.1%
หุ้น 9 ใน 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ปิดบวก โดยหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ปรับตัวลง เนื่องจากราคาน้ำมันที่ลดลง กดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน
ดัชนี S&P500 และดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกันแล้ว โดยดัชนี S&P500 ปิดตลาดทำนิวไฮ 3 วันในสัปดาห์นี้ ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ปิดทำนิวไฮ 2 วันติดต่อกัน
ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดตลาดต่ำกว่าระดับปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้เมื่อวันที่ 12 ก.พ.อยู่ไม่ถึง 1%
บรรดานักลงทุนมีความเชื่อมั่นในการลงทุนมากขึ้น โดยดัชนีความผันผวน (volatility index) ซึ่งบ่งชี้ความวิตกในตลาดนั้น ลดลง 1.9% ปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือน
ตลาดได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาสแรก ซึ่งตอกย้ำความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว
ดัชนี S&P กลุ่มการเงินปรับตัวขึ้นทำนิวไฮเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน โดยหุ้นเจพีมอร์แกน, โกลด์แมน แซคส์, แบงก์ออฟอเมริกา คอร์ปและเวลส์ ฟาร์โก ปรับตัวขึ้นระหว่าง 0.7-3.8%
แต่หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ร่วง 2.8% แม้เปิดเผยว่า ธนาคารมีกำไรที่ระดับ 2.19 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 1.70 ดอลลาร์/หุ้น และมีรายได้ 1.572 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 1.41 หมื่นล้านดอลลาร์
การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันที่จะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำต่อไปแม้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นนั้น ได้กระตุ้นแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี แม้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้นอีกครั้งในวันศุกร์ก็ตาม
หุ้นแอมะซอน.คอม, หุ้นเทสลา และหุ้นไมโครซอฟท์ ปรับตัวขึ้นระหว่าง 0.1-0.6% ขณะที่หุ้นแอปเปิล ลดลง 0.3%
การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐในวันศุกร์ช่วยหนุนตลาดด้วย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้าน พุ่งขึ้น 19.4% ในเดือนมี.ค. สู่ระดับ 1.739 ล้านยูนิต ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 1.613 ล้านยูนิต
นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับ 86.5 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี จากระดับ 84.9 ในเดือนมี.ค. แต่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 89.6 โดยการพุ่งขึ้นของดัชนีความเชื่อมั่นได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่มีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในวงกว้าง