ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (19 เม.ย.) โดยปรับตัวลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เข้าทดสอบในช่วงเช้า เนื่องจากนักลงทุนขายหุ้นออกมาเพื่อทำกำไร หลังถูกกดดันจากการที่ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงในช่วงเปิดตลาด และสกุลเงินยุโรปแข็งค่าขึ้นซึ่งส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มส่งออก
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 442.18 จุด ลดลง 0.31 จุด หรือ -0.07%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,368.39 จุด ลดลง 91.36 จุด หรือ -0.59% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,000.08 จุด ลดลง 19.45 จุด หรือ -0.28% ส่วนดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,296.69 จุด เพิ่มขึ้น 9.62 จุด หรือ +0.15%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไร หลังปิดบวก 7 สัปดาห์ติดต่อกันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และเข้าทดสอบระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในการซื้อขายช่วงเช้า
ตลาดหุ้นยุโรปเริ่มปรับตัวลงในช่วงบ่าย หลังเงินยูโรและปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มส่งออก
การที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐเปิดตลาดร่วงลงเมื่อคืนนี้ และความวิตกเกี่ยวกับยอดติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกมีส่วนกระตุ้นแรงเทขายทำกำไรในตลาดหุ้นยุโรป
หุ้นกลุ่มรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์นำตลาดร่วงลง หลังพุ่งขึ้นในวันศุกร์ ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลงด้วย
บริษัทจดทะเบียนในยุโรปราว 2% รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกออกมาแล้ว โดย 80% ของจำนวนดังกล่าวรายงานผลกำไรที่สูงเกินคาด