ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (21 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นที่ร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มสายการบิน โดยแรงช้อนซื้อหุ้นเหล่านี้ได้ช่วยสกัดปัจจัยลบจากการที่หุ้นเน็ตฟลิกซ์ดิ่งลงกว่า 7% หลังบริษัทเปิดเผยจำนวนผู้ใช้บริการลดลงในไตรมาสแรกปีนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,137.31 จุด เพิ่มขึ้น 316.01 จุด หรือ +0.93% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,173.42 จุด เพิ่มขึ้น 38.48 จุด หรือ +0.93% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,950.22 จุด เพิ่มขึ้น 163.95 จุด หรือ +1.19%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กฟื้นตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นเป็นวงกว้าง ตั้งแต่หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม กลุ่มพลังงาน ไปจนถึงหุ้นกลุ่มสายการบิน และกลุ่มธุรกิจเรือสำราญ หลังจากที่หุ้นเหล่านี้ดิ่งลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
สำหรับหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมนั้น หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ พุ่งขึ้น 2.12% หุ้นฮันนีเวลล์ เพิ่มขึ้น 1.47% หุ้น 3M ดีดขึ้น 1.33% ส่วนหุ้นในกลุ่มพลังงานนำโดยหุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ทะยานขึ้น 5.39% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ พุ่งขึ้น 2.88% เอ็กซอนโมบิล พุ่งขึ้น 1.28% หุ้นเชฟรอน ดีดขึ้น 1.38%
หุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มเรือสำราญได้รับแรงช้อนซื้อเช่นกัน โดยหุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 3.14% หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 3.10% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ดีดตัวขึ้น 2.8% หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป ทะยานขึ้น 6.26% หุ้นรอยัล คาริบเบียน ครูซ พุ่งขึ้น 4.45%
หุ้นแอปเปิล ขยับขึ้น 0.29% หลังบริษัทเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่หลายรายการ รวมถึง iPad Pro รุ่นใหม่ที่มาพร้อมเทคโนโลยี 5G และชิป M1 ซึ่งแอปเปิลออกแบบเอง นอกจากนี้ แอปเปิลยังเปิดตัวบัตรเครดิต Apple Card Family และบริการ Apple Podcasts
หุ้นเน็ตฟลิกซ์ดิ่งลง 7.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยจำนวนผู้ใช้บริการรายใหม่ในไตรมาส 1/2564 อยู่ที่ 3.98 ล้านราย ลดลงจากไตรมาส 4/2563 ซึ่งอยู่ที่ 8.5 ล้านราย และต่ำกว่าที่ตัวเลขที่บริษัทคาดการณ์เอาไว้ที่ 6 ล้านราย
นักวิเคราะห์จากบริษัทโกลบอลเวลธ์ เมเนจเมนท์กล่าวว่า นักลงทุนยังคงหาโอกาสที่จะลงทุนในหุ้นที่จะได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งรวมถึงข่าวบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) ได้เริ่มส่งมอบวัคซีนให้กับยุโรปอีกครั้ง หลังจากองค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) ระบุว่า ประโยชน์จากการฉีดวัคซีนของ J&J ยังคงมีมากกว่าความเสี่ยงจากผลข้างเคียงเกี่ยวกับภาวะลิ่มเลือดอุดตัน พร้อมกับแนะนำให้ J&J เพิ่มคำเตือนเกี่ยวกับการเกิดลิ่มเลือดอุดตันเอาไว้ที่ฉลากของวัคซีนด้วย
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองพุ่งขึ้น 8.6% ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวลงของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนมี.ค.จากเฟดชิคาโก, ยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนเม.ย.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนเม.ย.จากมารฺ์กิต และยอดขายบ้านใหม่เดือนมี.ค.
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 27-28 เม.ย. หลังเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 16-17 มี.ค. โดยระบุว่า เฟดจะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไปจนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวอย่างยั่งยืน