ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าผันผวน วิตกข่าวไบเดนจ่อขึ้นภาษี-ยอดโควิดพุ่ง

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผันผวน โดยได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐมีแผนที่จะปรับขึ้นภาษีกำไรที่ได้จากการลงทุนเพิ่มอีกเกือบสองเท่า รวมถึงสถานการณ์โควิด-19 ในภูมิภาค

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 28,983.31 จุด ลดลง 204.86 จุด หรือ -0.70% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 29,014.32 จุด เพิ่มขึ้น 258.98 จุด หรือ +0.90%

นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์โควิด-19 โดยล่าสุดนั้น กระทรวงสาธารณสุขอังกฤษกำหนดให้ผู้เดินทางทั้งหมดจากอินเดียมายังอังกฤษจะต้องเข้าสู่สถานที่กักตัวเพื่อเฝ้าระวังโรคโควิด-19 เป็นเวลา 10 วัน โดยเริ่มตั้งแต่วันนี้ (23 เม.ย.) เป็นต้นไป และจะต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อในวันที่สองและวันที่แปด โดยผู้ที่มีผลตรวจเชื้อเป็นบวกจะต้องกักตัวต่อไปอีก 10 วันนับจากวันที่ผลตรวจเป็นบวก ข้อกำหนดดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่พบครั้งแรกในอินเดียได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเมื่อวานนี้เพียงวันเดียว อินเดียพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ถึง 314,835 ราย

ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานข่าวระบุว่า ปธน.ไบเดนจะเสนอให้มีการปรับขึ้นอัตราภาษีส่วนเพิ่ม (marginal income tax rate) จาก 37% เป็น 39.6% และปรับขึ้นภาษีกำไรที่ได้จากการลงทุน (capital gains tax) เพิ่มอีกเกือบ 2 เท่า จาก 20% เป็น 39.6% สำหรับผู้ที่มีรายได้มากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ต่อปี

ทางด้านกระทรวงฝ่ายกิจการภายในประเทศและการสื่อสารของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐาน ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญของญี่ปุ่น ขยับลงเพียง 0.1% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งอาจช่วยให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) คลายความวิตกกังวลในช่วงเวลาที่ธนาคารกลางกำลังรับมือกับภาวะเงินเฟ้อจากราคาสินค้าผู้บริโภคที่ชะลอตัวลง อันเนื่องมาจากผลกระทบของโควิด-19

รายงานของกระทรวงระบุว่า ดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารสดซึ่งมีความผันผวน ปรับตัวลงติดต่อกันเดือนที่ 8 โดยเป็นผลมาจากราคาพลังงานที่ปรับตัวลง ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานในเดือนก.พ. ลดลง 0.4%