ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้นในวันนี้ โดยได้รับปัจจัยบวกจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีเกินคาดของสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางญี่ปุ่นในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ดี ภาวะการซื้อขายในภูมิภาคยังคงได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์โควิด-19 โดยเฉพาะในอินเดียและญี่ปุ่น
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 29,095.36 จุด เพิ่มขึ้น 74.73 จุด หรือ 0.26% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 29,102.10 จุด เพิ่มขึ้น 23.35 จุด หรือ +0.08%
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 27-28 เม.ย.นี้ หลังจากที่เฟดเปิดเผยรายงานการประชุมเดือนมี.ค.ระบุว่า เฟดจะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไปจนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังจับตาธนาคารกลางญี่ปุ่นซึ่งจะประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 27 เม.ย.นี้
สำหรับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในภูมิภาค เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายโยชิฮิเดะ ซูงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้ประกาศภาวะฉุกเฉินแล้วในกรุงโตเกียว, เกียวโต, โอซาก้า และเฮียวโงะ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงวันหยุดเทศกาลโกลเด้นวีคระหว่างวันที่ 25 เม.ย.-11 พ.ค.นี้
สื่อท้องถิ่นอินเดียรายงานว่า เจ้าหน้าที่อาวุโสจากรัฐบาลกลางอินเดียได้คาดการณ์ว่า หากการแพร่ระบาดถึงจุดสูงสุดแล้ว ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันของอินเดียจะพุ่งสูงแตะ 500,000 รายต่อวันในช่วงกลางเดือนพ.ค.
ตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวได้นำเสนอในที่ประชุมระหว่างนายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย และรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ ระบุว่า นอกจากรัฐมหาราษฏระ รัฐคุชราต และกรุงนิวเดลีแล้ว ยังมีรัฐอุตตรประเทศที่จ่อขึ้นเป็นพื้นที่ระบาดรุนแรงแห่งใหม่ หลังจากที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงถึง 190,000 รายต่อวัน
ทางด้านสำนักนายกรัฐมนตรีอินเดียออกแถลงการณ์ว่า อินเดียเตรียมสร้างโรงผลิตออกซิเจนทางการแพทย์จำนวน 551 แห่งทั่วประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนออกซิเจนและเครื่องช่วยหายใจตามโรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในกรุงเดลีเมื่อช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ขณะที่วานนี้ อินเดียรายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่เพิ่มอีก 349,691 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นเป็น 16,960,172 ราย