ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ลดลง หลังได้รับแรงกดดันจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดลบเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 27-28 เม.ย.นี้
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 29,047.00 จุด ลดลง 79.23 จุด หรือ -0.27% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 28,910.50 จุด ลดลง 42.33 จุด หรือ -0.15%
ทั้งนี้ ผลสำรวจความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ 49 รายซึ่งเปิดเผยโดยสำนักข่าวบลูเบิร์กในวันจันทร์ (26 ก.ย.) ระบุว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มที่จะเริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อสินทรัพย์ก่อนสิ้นปีนี้ โดยกว่า 2 ใน 3 ของนักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจในครั้งนี้คาดการณ์ว่า เฟดจะส่งสัญญาณเตือนล่วงหน้าก่อนที่จะทำการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อสินทรัพย์ในปีนี้ ขณะที่ 45% ของนักเศรษฐศาสตร์เหล่านี้คาดว่า เฟดจะประกาศการปรับลดวงเงินในโครงการดังกล่าวในไตรมาส 4 ของปีนี้ ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ 14% คาดว่า เฟดจะประกาศเรื่องดังกล่าวในไตรมาส 3
อย่างไรก็ดี ผลสำรวจซึ่งจัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 16-21 เม.ย.ระบุว่า เฟดไม่มีแนวโน้มที่จะส่งสัญญาณใดๆ เกี่ยวกับการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรในการประชุม 2 วันระหว่างวันที่ 27-28 เม.ย.นี้
ทางด้านธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินในการประชุมวันนี้ ซึ่งรวมถึงการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% และคงเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีไว้ที่ระดับราว 0% นอกจากนี้ ยังปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นในปีงบประมาณ 2564 ขึ้นสู่ระดับ 4% จากระดับ 3.9% อย่างไรก็ดี BOJ ได้ปรับลดคาดการณ์แนวโน้มดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐาน ลงสู่ระดับ 0.1% จากระดับ 0.5% โดยยอมรับว่าอาจจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ในช่วงที่นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ BOJ