ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 164.55 จุด หลังเฟดตรึงดอกเบี้ย-คงวงเงิน QE

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 29, 2021 06:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 เม.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยและคงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามคาด นอกจากนี้ เฟดไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะปรับลดมาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจ แม้ระบุว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจแข็งแกร่งขึ้นก็ตาม

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,820.38 จุด ลดลง 164.55 จุด หรือ -0.48% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,183.18 จุด ลดลง 3.54 จุด หรือ -0.08% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,051.03 จุด ลดลง 39.19 จุด หรือ -0.28%

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ พร้อมประกาศว่าจะยังคงซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อย่างน้อย 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือน

ทั้งนี้ แม้ว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว แต่เฟดยังคงเน้นย้ำแนวทางที่ใช้มาตั้งแต่เดือนธ.ค. 2563 โดยระบุว่า เฟดต้องการเห็นอัตราเงินเฟ้อและการจ้างงานปรับตัวขึ้นสู่เป้าหมายก่อนที่จะตัดสินใจปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตร นอกจากนี้ เฟดระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจและการจ้างงานมีความแข็งแกร่งขึ้น โดยได้แรงหนุนจากความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 และการสนับสนุนด้านนโยบาย

เควิน ฟลานาแกน นักวิเคราะห์จากบริษัทวิสดอมทรี ฟันด์ในรัฐนิวยอร์กกล่าวว่า มติการประชุมล่าสุดของเฟดสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอน และเฟดจะเดินหน้าใช้นโยบายการเงินเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจต่อไป

หุ้น 5 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปรับตัวลง นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง 0.96% โดยหุ้นไมครอน เทคโนโลยี ดิ่งลง 3.83% หุ้นแอปเปิล ปรับตัวลง 0.6% หุ้นอินเทล ลดลง 0.6% หุ้น Nvidia ปรับตัวลง 0.68%

หุ้นไมโครซอฟท์ ร่วงลง 2.83% หลังบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 1.95 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.78 ดอลลาร์ต่อหุ้น แต่อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) ของผลิตภัณฑ์ Commercial Cloud หลายรายการ ซึ่งรวมถึง Azure และ Dynamics 365 ด้วยนั้น ปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 70% จากระดับ 71% โดยอัตรากำไรขั้นต้นถือเป็นตัวเลขสำคัญที่นักลงทุนให้ความสนใจ เพราะสามารถบ่งชี้ว่าไมโครซอฟท์ยังสามารถทำกำไรได้จากธุรกิจ Azure หรือไม่

หุ้นอัลฟาเบทซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล พุ่งขึ้น 2.97% หลังบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 1 อยู่ที่ 26.29 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 15.82 ดอลลาร์ ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 5.531 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 34% เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 5.17 หมื่นล้านดอลลาร์

หุ้นโบอิ้ง ร่วงลง 2.89% หลังบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุน 1.53 ดอลลาร์/หุ้นในไตรมาส 1 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.16 ดอลลาร์/หุ้น โดยโบอิ้งประสบภาวะขาดทุนติดต่อกัน 6 ไตรมาส จากผลกระทบของการชะลอการผลิตเครื่องบิน อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

หุ้นยัม แบรนด์ส (Yum! Brands) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของพิซซ่า ฮัท และเคนตั๊กกี ฟรายชิกเก้น (KFC) ดีดตัวขึ้น 1% หลังบริษัทเปิดเผยกำไร 1.07 ดอลลาร์/หุ้นในไตรมาส 1 ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.87 ดอลลาร์/หุ้น

หุ้นเทสลา ร่วงลง 1.47% หลังบริษัทเปิดเผยกำไรที่สูงกว่าคาดในไตรมาส 1 แต่นักลงทุนมองว่ากำไรส่วนใหญ่ของเทสลามาจากการขายบิตคอยน์ มากกว่าที่จะมาจากยอดขายรถยนต์ โดยเทสลาได้ส่งหนังสือแจ้งต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) หรือก.ล.ต.ว่า ทางบริษัทได้ลงทุนในบิตคอยน์คิดเป็นมูลค่า 2,500 ล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนมี.ค. ซึ่งวงเงินดังกล่าวสูงกว่าระดับ 1,500 ล้านดอลลาร์ที่เทสลาแจ้งต่อก.ล.ต.สหรัฐเมื่อวันที่ 8 ก.พ.

หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันดิบเมื่อคืนนี้ หลังจากโกลด์แมน แซคส์คาดว่า ราคาน้ำมัน WTI จะดีดตัวขึ้นแตะระดับ 77 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วง 6 เดือนข้างหน้า โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ทะยานขึ้น 3.01% หุ้นเชฟรอน พุ่งขึ้น 2.5% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ พุ่งขึ้น 3.39%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดเมื่อคืนนี้ สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองลดลง 2.5% ในสัปดาห์ที่แล้ว แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองปรับตัวลง โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ยเพื่อการจำนองแบบคงที่ระยะเวลา 30 ปีสำหรับวงเงินกู้ไม่เกิน 510,400 ดอลลาร์ ปรับตัวลงสู่ระดับ 3.17% จากระดับ 3.20% ในสัปดาห์ก่อนหน้านี้

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนมี.ค., รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนมี.ค., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมี.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ