ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 เม.ย.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1 ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดทำนิวไฮ หลังหุ้นเฟซบุ๊กทะยานขึ้นกว่า 7% ขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาด และปัจจัยหนุนหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มเทคโนโลยีด้วย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,060.36 จุด เพิ่มขึ้น 239.98 จุด หรือ +0.71% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,211.47 จุด เพิ่มขึ้น 28.29 จุด หรือ +0.68% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,082.55 จุด เพิ่มขึ้น 31.52 จุด หรือ +0.22%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคักเมื่อคืนนี้ ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลข GDP ไตรมาส 1 ขยายตัว 6.4% ซึ่งใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ในช่วง 6.1-6.5% และเป็นตัวเลขการขยายตัวสูงเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่ไตรมาส 3/2546
ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 13,000 ราย สู่ระดับ 553,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐเมื่อเดือนมี.ค.2563
นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับประธานาธิบดีโจ ไบเดนที่เปิดเผยแผนการใช้จ่ายเพิ่มเติมของรัฐบาลในวงเงิน 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ต่อสภาคองเกรสเมื่อวานนี้ รวมทั้งการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่า เฟดจะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป และจะยังไม่ปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) แม้เศรษฐกิจสหรัฐมีการฟื้นตัวแข็งแกร่งมากขึ้นก็ตาม
หุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 7.3% หลังบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 1 อยู่ที่ 3.30 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.37 ดอลลาร์ โดยได้แรงหนุนจากค่าโฆษณาต่อชิ้นที่เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยต่อปี 30% และจำนวนโฆษณาที่เพิ่มขึ้น 12%
ทั้งนี้ การพุ่งขึ้นของหุ้นเฟซบุ๊กเป็นปัจจัยหนุนหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มเทคโนโลยี โดยหุ้นไมครอน เทคโนโลยี พุ่งขึ้น 2.36% หุ้นอัลฟาเบท พุ่งขึ้น 1.43%หุ้นแอมะซอน ดีดขึ้น 0.37% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ เพิ่มขึ้น 0.49% หุ้นอินเทล พุ่งขึ้น 1.15%
หุ้นแมคโดนัลด์ ปรับตัวขึ้น 1.2% หลังบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 1 ที่ระดับ 1.92 ดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.81 ดอลลาร์
หุ้นคอมแคสต์ สื่อยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ทะยานขึ้น 4.25% หลังบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 1 ที่ระดับ 76 เซนต์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 58 เซนต์
หุ้นแอปเปิลปิดตลาดขยับลง 0.07% หลังจากที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในระหว่างวัน ขานรับกำไรต่อหุ้นซึ่งอยู่ที่ 1.40 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 99 เซนต์ นอกจากนี้ แอปเปิลยังเพิ่มการจ่ายเงินปันผลอีก 7% และประกาศการซื้อหุ้นคืนมูลค่า 9 หมื่นล้านดอลลาร์
หุ้นฟอร์ด มอเตอร์ ดิ่งลง 9.41% หลังบริษัทประกาศว่าอาจจะปรับลดกำลังการผลิตลงราว 50% ในไตรมาส 2 เนื่องจากมีปัญหาชิ้นส่วนรถยนต์ขาดแคลน ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ชิปเซมิคอนดักเตอร์ขาดตลาด อย่างไรก็ดี ฟอร์ดระบุว่า รายได้สุทธิในไตรมาส 1 เพิ่มขึ้นแตะระดับ 3.3 พันล้านดอลลาร์
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เพิ่มขึ้น 1.9% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นหลังการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองที่ระดับต่ำ
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ได้แก่ รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนมี.ค., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมี.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน