ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (4 พ.ค.) โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคารหลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรลดลงในยุโรป แต่หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นสวนทางตลาดขานรับแนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้น ขณะที่การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ว่า กิจกรรมการผลิตในอังกฤษขยายตัวในอัตราสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2537
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,923.17 จุด ลดลง 46.64 จุด หรือ -0.67%
หุ้นกลุ่มธนาคารถ่วงตลาดหุ้นลอนดอนลงมากที่สุด โดยหุ้นเอชเอสบีซี และหุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ปรับตัวลงกว่า 2% โดยถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลง
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรยูโรโซนลดลงจากระดับสูงสุดในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากความผันผวนของตลาดหุ้นได้หนุนความต้องการพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
แต่หุ้นบีพีและหุ้นเชลล์ปรับตัวขึ้นสวนทางตลาด โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการเปิดเศรษฐกิจ
บรรดานักลงทุนจะจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันพฤหัสบดีที่ 6 พ.ค.นี้ ซึ่งมีแนวโน้มที่ BoE จะลดอัตราการซื้อพันธบัตร และผ่อนคลายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ว่า ดัชนี PMI ของอังกฤษ เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 60.9 ในเดือนเม.ย.