ดัชนีดาวโจนส์พุ่งกว่า 200 จุดในวันนี้ แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน
ณ เวลา 20.40 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 34,987.25 จุด บวก 209.49 จุด หรือ 0.6%
หุ้นกลุ่มพลังงานพากันดีดตัวขึ้นในการซื้อขายวันนี้ หลังท่อส่งน้ำมันของบริษัทโคโลเนียล ไปป์ไลน์ ซึ่งเป็นท่อส่งน้ำมันขนาดใหญ่ของสหรัฐ ถูกโจมตีทางไซเบอร์
อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีต่างปรับตัวลงสวนทางตลาด
ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 200 จุดแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันศุกร์ ขณะที่นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่ซบเซาในเดือนเม.ย.
นอกจากนี้ ดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้น 2.7% ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 266,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 1,000,000 ตำแหน่ง
ส่วนอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 6.1% ในเดือนเม.ย. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 5.8%
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในวันพุธนี้ ซึ่งหากตัวเลข CPI พุ่งขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ก็อาจส่งผลให้เฟดชะลอการผ่อนคลายนโยบายการเงิน โดยอาจลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เพื่อสกัดเงินเฟ้อ จากปัจจุบันที่เฟดทำ QE อย่างน้อย 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือน
ก่อนหน้านี้ เฟดเคยส่งสัญญาณลดวงเงิน QE ในปี 2556 ซึ่งสร้างความตื่นตระหนกต่อนักลงทุน ส่งผลให้ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทและตลาดหุ้นทั่วโลกทรุดตัวลงอย่างหนักในปีดังกล่าว