ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนของอังกฤษ และการเปิดเผยข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) รายเดือนของอังกฤษที่ดีเกินคาด ได้ช่วยหนุนความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจด้วย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,004.63 จุด เพิ่มขึ้น 56.64 จุด หรือ +0.82%
ตลาดหุ้นลอนดอนได้แรงหนุนหลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจของอังกฤษหดตัวลง 1.5% ในไตรมาสแรก ซึ่งเป็นการหดตัวลงน้อยกว่าคาด และเศรษฐกิจขยายตัว 2.1% ในเดือนมี.ค.โดยได้แรงหนุนจากภาคค้าปลีก
ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวขึ้นราว 8.4% แล้วในปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเชื่อว่าการเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และการสนับสนุนด้านนโยบายที่แข็งแกร่งจากรัฐบาลจะผลักดันการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้น
การเปิดเผยแนวโน้มผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนช่วยหนุนตลาดด้วย โดยหุ้นดิอาจีโอ พุ่งขึ้น 3.4% หลังจากคาดการณ์ว่าผลกำไรของบริษัทจะขยายตัวอย่างน้อย 14% ในปีงบการเงินปัจจุบัน
หุ้นเชลล์ และ หุ้นบีพี พุ่งขึ้นมากกว่า 3.5% หลังได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นจากสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว และการคาดการณ์อุปสงค์พลังงานที่เพิ่มขึ้น
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นเกล็นคอร์, แองโกล อเมริกัน และริโอ ทินโต ปรับตัวขึ้นราว 1% เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ยังคงปรับตัวขึ้น