ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ในวันนี้ เนื่องจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มเทคโนโลยี นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลว่า ตัวเลขเงินเฟ้อที่ขยายตัวสูงกว่าคาดในสหรัฐอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้
ดัชนี S&P/ASX 200 ปิดที่ 6,982.70 จุด ลดลง 62.20 จุด หรือ -0.88% และดัชนี All Ordinaries ปิดที่ 7,209.00 จุด ลดลง 72.10 จุด หรือ -0.99%
ตลาดหุ้นออสเตรเลียร่วงลงตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลก หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 12 ปี ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าการพุ่งขึ้นของตัวเลขเงินเฟ้ออาจกดดันให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด และอาจปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE
ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดิ่งลง 4.7% ขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวลงเกือบ 1.9% หลังจากราคาแร่เหล็กปรับตัวลงกว่า 7%
หุ้นบริษัทที่ทำธุรกิจสกุลเงินคริปโตร่วงลง หลังจากราคาบิตคอยน์ดิ่งลงอย่างหนัก ภายหลังจากนายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเทสลา อิงค์ประกาศว่า เทสลาได้ตัดสินใจงดรับสกุลเงินบิตคอยน์ในการซื้อรถยนต์ของบริษัท โดยระบุถึงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการที่ต้องใช้พลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลในการขุดเหรียญบิตคอยน์