ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 360.68 จุด ขานรับเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัว

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday May 15, 2021 06:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นอีกกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (14 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงพากันเข้าซื้อหุ้นท่ามกลางความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งได้ช่วยบดบังความวิตกในตลาดเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ และความกังวลที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคุมเข้มนโยบายการเงินเร็วกว่าคาด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,382.13 จุด เพิ่มขึ้น 360.68 จุด หรือ +1.06%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,173.85 จุด เพิ่มขึ้น 61.35 จุด หรือ +1.49% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,429.98 จุด เพิ่มขึ้น 304.99 จุด หรือ +2.32%

แต่ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีทั้ง 3 ตัวยังคงปรับตัวลงรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือนก.พ.ที่ผ่านมา โดยดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 1.1%, ดัชนี S&P500 ลบ 1.4% และดัชนี Nasdaq ลดลง 2.3%

หุ้นทั้ง 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดบวก โดยกลุ่มพลังงานและกลุ่มเทคโนโลยีนำตลาดพุ่งขึ้น 3.16% และ 2.12% ตามลำดับ โดยหุ้นกลุ่มพลังงานได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้น

บรรดานักลงทุนพากันเข้าซื้อหุ้น เนื่องจากคาดว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐอาจจะกลับคืนสู่ภาวะปกติ หลังจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐระบุว่า ประชาชนที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยอีกต่อไปเมื่ออยู่กลางแจ้ง และไม่ต้องใส่หน้ากากเมื่ออยู่ภายในอาคารของสถานที่ต่างๆ ส่วนใหญ่ในสหรัฐ

หุ้นชิปช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นด้วย หลังมีรายงานว่า สมาชิกสภาสหรัฐใกล้ที่จะเปิดเผยข้อเสนอวงเงิน 5.2 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลือด้านการผลิตไมโครชิปของสหรัฐ

ดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ที่ตลาดฟิลาเดลเฟีย พุ่งขึ้น 3.0%

การเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐช่วยหนุนตลาดด้วย ขณะที่นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่บริษัทค้าปลีกรายใหญ่ที่จะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์หน้า อาทิ วอลมาร์ท, โฮม ดีโปท์, ทาร์เก็ต และโลว์ส

หุ้นแอร์บีเอ็นบี พุ่งขึ้น 4% หลังรายงานยอดจองที่พักพุ่งขึ้น 52% เนื่องจากการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้ช่วยหนุนความต้องการเช่าที่พักสำหรับการเดินทางไปท่องเที่ยวในวันหยุดพักผ่อน

ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกทรงตัวในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่า อาจเพิ่มขึ้น 1.0% หลังจากพุ่งขึ้น 10.7% ในเดือนมี.ค. ขณะที่ยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร ร่วงลง 1.5% ในเดือนเม.ย. หลังจากพุ่งขึ้น 7.6% ในเดือนมี.ค.

ส่วนผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐ ลดลงสู่ระดับ 82.8 ในเดือนพ.ค. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 90.4 หลังจากแตะระดับ 88.3 ในเดือนเม.ย.ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในสหรัฐในเดือนมี.ค. 2563


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ