ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (19 พ.ค.) โดยการร่วงลงของหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ถ่วงตลาดลงมากที่สุด ขณะที่การพุ่งขึ้นเกินคาดของอัตราเงินเฟ้อทำให้บรรดานักลงทุนวิตกว่า ธนาคารกลางอังกฤษอาจจะคุมเข้มนโยบายการเงินเร็วกว่าคาด
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,950.20 จุด ลดลง 84.04 จุด หรือ -1.19%
บรรดานักลงทุนเทขายหุ้นจากความวิตกเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นซึ่งอาจจะกดดันให้ธนาคารกลางอังกฤษทำการคุมเข้มนโยบายการเงินเร็วขึ้น หลังจากรัฐบาลอังกฤษเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พุ่งขึ้นมากกว่า 2 เท่าในเดือนเม.ย. สู่ระดับ 1.5% โดยธนาคารกลางอังกฤษหวังว่าเงินเฟ้อดังกล่าวจะเป็นเพียงชั่วคราว อันเนื่องมาจากการที่เศรษฐกิจฟื้นตัวจากการทรุดตัวซึ่งเป็นผลกระทบจากโรคโควิด-19 ในปีที่ผ่านมา
การพุ่งขึ้นของค่าไฟฟ้าและก๊าซ รวมถึงราคาเสื้อผ้าและรองเท้าทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาผู้ผลิตปรับตัวขึ้นด้วย 3.9% และราคาปัจจัยการผลิต พุ่งขึ้นถึง 9.9% มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2560
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ ร่วงลง 3.9% หลังราคาโลหะปรับตัวลง ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงาน อาทิ หุ้นบีพี และหุ้นเชลล์ ร่วงลงมากกว่า 1%