ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (21 พ.ค.) โดยถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่ปรับตัวลง ซึ่งบดบังปัจจัยบวกจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของอังกฤษ
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 7,018.05 จุด ลดลง 1.74 จุด หรือ -0.03%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ถ่วงตลาดลง โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน, หุ้นเกล็นคอร์ และหุ้นริโอ ทินโต ร่วงลงราว 0.3-0.5%
แต่หุ้นกลุ่มพลังงานยังคงช่วยหนุนตลาด โดยหุ้นบีพี และหุ้นเชลล์ ปรับตัวขึ้น 0.61% และ 1.00% ตามลำดับ
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลง แม้มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของอังกฤษที่แข็งแกร่ง โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ (ONS) ของอังกฤษรายงานในวันศุกร์ว่า ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 9.2% เนื่องจากร้านค้าทั่วไปกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง หลังจากปิดไปนานหลายเดือนเนื่องจากข้อจำกัดในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และเป็นการพุ่งขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่การเปิดธุรกิจครั้งก่อนในเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว
นอกจากนี้ ไอเอชเอส มาร์กิต/ซีไอพีเอสเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของสหราชอาณาจักร ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 62.0 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลในเดือนม.ค.2541 จากระดับ 60.7 ในเดือนเม.ย. โดยดัชนี PMI ที่ยังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่า ภาคธุรกิจของสหราชอาณาจักรยังคงมีการขยายตัว โดยได้แรงหนุนจากภาคการผลิตและบริการที่แข็งแกร่ง