ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุด โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานและเทคโนโลยี
ณ เวลา 21.24 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 34,418.11 จุด บวก 210.27 จุด หรือ 0.61%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นในวันนี้ ขานรับการฟื้นตัวของบิตคอยน์ หลังจากร่วงลงต่ำกว่า 32,000 ดอลลาร์ในการซื้อขายวานนี้
หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มสายการบิน และธุรกิจเรือสำราญ ปรับตัวขึ้นเช่นกัน ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นตามราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นในตลาด
นักลงทุนยังคงจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยบริษัทกลุ่มค้าปลีกหลายแห่งจะประกาศผลประกอบการในสัปดาห์นี้
นอกจากนี้ ตลาดจับตาการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2564 (ประมาณการครั้งที่ 2) ในวันพฤหัสบดี และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์ โดยดัชนี PCE นับเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ
ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับ GDP ประจำไตรมาส 1/2564 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 6.4% ในไตรมาส 1 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.1% และเป็นตัวเลขการขยายตัวสูงเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่ไตรมาส 3/2546 หลังจากที่เติบโต 4.3% ในไตรมาส 4/2563
ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก เปิดเผยว่า ดัชนี Chicago Fed National Activity Index (CFNAI) ปรับตัวลงสู่ระดับ 0.24 ในเดือนเม.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.20 จากระดับ 1.71 ในเดือนมี.ค.
ดัชนีได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงของการบริโภค ขณะที่การจ้างงานชะลอตัวลง
นักวิเคราะห์ระบุว่า ดัชนี CFNAI ถือเป็นตัวชี้วัดที่ดีที่สุดในการประเมินความเสี่ยงในการเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐ