ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 พ.ค.) โดยได้แรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ ขณะที่นักลงทุนจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในอังกฤษ หลังมีรายงานว่ารัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมบังคับใช้มาตรการกักตัวเป็นเวลา 3 วันสำหรับผู้ที่เดินทางมาจากอังกฤษ เพื่อเฝ้าระวังโรคโควิด-19
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,029.79 จุด ลดลง 21.80 จุด หรือ -0.31%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง โดยหุ้นเกลนคอร์ และหุ้นบีเอชพี ร่วงลง 1.2% และ 1.6% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นริโอทินโต และหุ้นแองโกล อเมริกัน ดิ่งลงเช่นกัน
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงหลังมีรายงานว่า รัฐบาลจีนจะใช้บทลงโทษขั้นรุนแรงต่อผู้ที่ละเมิดกฎข้อบังคับด้านการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ โดยมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะสะกัดความร้อนแรงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์
นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังประกาศจับตาแนวโน้มราคาสินค้าโภคภัณฑ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งจะเพิ่มความเข้มงวดในการใช้กฎข้อบังคับทั้งในตลาดสปอตและตลาดซื้อขายล่วงหน้า และรัฐบาลจะใช้บทลงโทษที่หนักขึ้นต่อผู้ที่ละเมิดกฎข้อบังคับ
หุ้นแอสตร้าเซนเนก้า ปรับตัวลง 0.8% หลังมีรายงานว่า คณะกรรมการกำกับดูแลด้านการแข่งขันทางธุรกิจของอังกฤษกำลังตรวจสอบกรณีที่แอสตร้าเซนเนก้าเข้าซื้อกิจการบริษัท Alexion ในวงเงิน 3.9 หมื่นล้านดอลลาร์
นักลงทุนจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในอังกฤษ หลังมีรายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมบังคับใช้มาตรการกักตัวเป็นเวลา 3 วันเพื่อเฝ้าระวังโรคโควิด-19 สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากอังกฤษ, เดนมาร์ก, คาซัคสถาน และตูนีเซีย
นายคัตสึโนบุ คาโตะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นในฐานะโฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นแถลงว่า สำหรับมาตรการกักตัวผู้ที่เดินทางมาจากอินเดีย, ศรีลังกา, เนปาล, ปากีสถาน, บังกลาเทศ และมัลดีฟส์ จะขยายจาก 6 วัน เป็น 10 วัน โดยเริ่มตั้งแต่วันศุกร์นี้ (28 พ.ค.) เป็นต้นไป โดยมาตรการดังกล่าวจะบังคับใช้กับผู้ที่เดินทางเข้าประเทศรายใหม่ และผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศทั้งหมด