ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (26 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเดินทางและสันทนาการที่ปรับตัวขึ้น แต่หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลง หลังจากบรรดาผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยืนยันที่จะผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไป แม้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมาก็ตาม
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 445.22 จุด เพิ่มขึ้น 0.02 จุด หรือ +0.005%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,391.60 จุด เพิ่มขึ้น 1.33 จุด หรือ +0.02%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,450.72 จุด ลดลง 14.37 จุด หรือ -0.09% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,026.93 จุด ลดลง 2.86 จุด หรือ -0.04%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น หลังเจ้าหน้าที่เฟดยืนยันที่จะดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อไป ขณะที่เจ้าหน้าที่ ECB ระบุว่า อาจเร็วเกินไปที่จะหารือเรื่องการปรับลดการซื้อพันธบัตรฉุกเฉิน แต่หุ้นกลุ่มธนาคารเผชิญแรงกดดันจากความเห็นดังกล่าว
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นเกือบ 12% แล้วในปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน และความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการเปิดเศรษฐกิจ หลังการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มีความคืบหน้า
หุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ของอังกฤษ พุ่งขึ้น 8.5% สู่ระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี หลังจากเปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทจะฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่ผลกำไรทั้งปีร่วงลง 88% ในปีที่ผ่านมา
หุ้นดานอนของฝรั่งเศส ลดลง 1.8% หลังบีเรนเบิร์กแนะนำขายหุ้นดานอน โดนระบุว่าธุรกิจส่วนใหญ่ของดานอนนั้นมีลักษณะการเติบโตต่ำซึ่งยากที่จะแก้ไข