ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าบวก หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อหุ้นกลุ่มที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับรายงานข่าวที่ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะเปิดเผยงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 วงเงิน 6 ล้านล้านดอลลาร์ในวันนี้
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 29,111.41 จุด พุ่งขึ้น 562.40 จุด หรือ +1.97% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 29,297.18 จุด เพิ่มขึ้น 183.98 จุด หรือ +0.63%
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 38,000 ราย สู่ระดับ 406,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐเมื่อเดือนมี.ค.2563 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 425,000 ราย
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2564 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 6.4% ในไตรมาส 1 ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขประมาณการครั้งแรก และเป็นการขยายตัวสูงเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่ไตรมาส 3/2546
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ซึ่งระบุว่า ปธน.ไบเดนจะเปิดเผยงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 วงเงิน 6 ล้านล้านดอลลาร์ในวันนี้ โดยจะประกอบด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ครอบคลุมถึงการที่รัฐบาลจะเข้าลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งช่วยเหลือภาคครัวเรือนสหรัฐเพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนเม.ย.ของสหรัฐในวันนี้ โดยเฉพาะดัชนี PCE พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ
นักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี PCE พื้นฐานจะพุ่งขึ้น 2.9% ในเดือนเม.ย.เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 1.8% ในเดือนมี.ค. ซึ่งการพุ่งขึ้นของดัชนี PCE พื้นฐานอาจส่งผลให้เฟดปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) จากปัจจุบันที่เฟดทำ QE อย่างน้อย 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือน