ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผันผวน โดยบางส่วนได้รับปัจจัยหนุนจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดบวกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังการเปิดเผยข้อมูลที่ยืนยันว่าเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวจากผลกระทบของโรคโควิด-19 อย่างไรก็ดี สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในภูมิภาคได้ฉุดความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 28,928.69 จุด ลดลง 220.72 จุด หรือ -0.76% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 28,978.85 จุด ลดลง 145.56 จุด หรือ -0.50%
นักลงทุนวิตกกังวลหลังกระทรวงสาธารณสุขมาเลเซียรายงานพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 สูงเป็นประวัติการณ์ 9,000 กว่ารายเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ขณะที่นายมูห์ยิดดิน ยัสซิน นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศระหว่างวันที่ 1-14 มิ.ย. เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยมาตรการล็อกดาวน์ดังกล่าวจะจำกัดกิจกรรมทั่วประเทศ โดยจะมีเพียงภาคเศรษฐกิจและบริการที่มีความจำเป็นเท่านั้นที่จะสามารถดำเนินการต่อไปได้
ตลาดหุ้นมาเลเซียร่วงลงกว่า 1% ในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจหลังจากรัฐบาลมาเลเซียประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศระหว่างวันที่ 1-14 มิ.ย. เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ตลาดหุ้นบางส่วนในเอเชียได้รับแรงหนุนจากการปิดบวกของตลาดหุ้นสหรัฐ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนเม.ย. จากระดับ 0.5% ในเดือนมี.ค. และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี PCE พุ่งขึ้น 3.6% ในเดือนเม.ย. จากระดับ 2.3% ในเดือนมี.ค.
ส่วนดัชนี PCE พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนเม.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.6% จากระดับ 0.4% ในเดือนมี.ค. และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี PCE พื้นฐาน พุ่งขึ้น 3.1% ในเดือนเม.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.9% จากระดับ 1.9% ในเดือนมี.ค.