ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวก ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจแข็งแกร่ง

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (1 มิ.ย.) แตะระดับสูงสุดครั้งใหม่เป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานที่พุ่งขึ้นนำตลาด หลังราคาโลหะและน้ำมันปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และการเปิดเผยข้อมูลกิจกรรมการผลิตของยูโรโซนที่ขยายตัวในอัตราที่สูงเป็นประวัติการณ์ในเดือนพ.ค.ได้ช่วยหนุนตลาดด้วย

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 450.10 จุด เพิ่มขึ้น 3.34 จุด หรือ +0.75%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,489.40 จุด เพิ่มขึ้น 42.23 จุด หรือ +0.66%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,567.36 จุด เพิ่มขึ้น 146.23 จุด หรือ +0.95% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,080.46 จุด เพิ่มขึ้น 57.85 จุด หรือ +0.82%

ตลาดหุ้นยุโรปเพิ่มขึ้น โดยหุ้นเกือบทุกกลุ่มปรับตัวในแดนบวก หลังไอเอชเอส มาร์กิตเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของยูโรโซน พุ่งขึ้นสู่ระดับ 63.1 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มการสำรวจในเดือนมิ.ย. 2540

ผลสำรวจดังกล่าวบ่งชี้ว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจในยูโรโซนเป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้น แม้มีปัญหาด้านอุปทานขาดแคลนซึ่งทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นก็ตาม

ความเชื่อมั่นเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรปได้ช่วยหนุนตลาดหุ้นต่างๆ ปรับตัวขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ อาทิ แองโกล อเมริกัน, บีเอชพี กรุ๊ป และเกล็นคอร์ พุ่งขึ้นเกือบ 4% หลังราคาทองแดงและโลหะอื่นๆ ปรับตัวขึ้น

หุ้นกลุ่มน้ำมัน อาทิ บีพี, เชลล์ และโททาล ปรับตัวขึ้นด้วย เนื่องจากสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.จากความเชื่อมั่นเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันเชื้อเพลิง

หุ้นเดมเลอร์ของเยอรมนี พุ่งขึ้น 2.6% หลังตกลงจ่ายเงินค่าใช้สิทธิบัตรของบริษัทโนเกียเพื่อยุติความขัดแย้งด้านลิขสิทธิ์เทคโนโลยีที่สำคัญ