ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวแคบในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนรอการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในสัปดาห์นี้
ณ เวลา 19.45 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 3 จุด หรือ 0.01% สู่ระดับ 34,619 จุด
ราคาหุ้นของบริษัท Fastly ซึ่งเป็นผู้ให้บริการคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) ในสหรัฐ ดิ่งลง 2.5% ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดหุ้นวอลล์สตรีทวันนี้ หลังจากที่บริษัทประสบปัญหาขัดข้องทางเทคนิคจนส่งผลกระทบทำให้เว็บไซต์ข่าวทั่วโลกล่มในวันนี้
ทั้งนี้ Fastly เป็นบริษัทที่ให้บริการ CDN (Content Delivery Network) โดยบริษัทมีเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์และศูนย์ข้อมูลทั่วโลก และมีการถ่ายโอนข้อมูลที่มีความจำเป็นสำหรับการโหลดคอนเทนท์เกี่ยวกับหน้าเว็บเพจ HTML, ไฟล์ javascript รวมทั้งการส่งภาพและวิดีโอ
ปัญหาที่เกิดขึ้นกับ Fastly ได้ส่งผลกระทบต่อเว็บไซต์ข่าวหลายแห่งทั่วโลก เช่น CNN, BBC, The Guardian, Bloomberg News, The Financial Times, The New York Times และ Le Monde
ขณะเดียวกัน เว็บไซต์ของรัฐบาลอังกฤษ (gov.uk) และเว็บไซต์ของ Amazon.com ก็ประสบปัญหาเช่นกัน รวมทั้งเว็บไซต์ของ Spotify, Twitch และ Reddit
ล่าสุด Fastly ออกแถลงการณ์ระบุว่า ทางบริษัทสามารถแก้ไขปัญหาขัดข้องทางเทคนิคที่ทำให้เว็บไซต์ข่าวทั่วโลกล่มในวันนี้ และขณะนี้เครือข่ายข่าวดังกล่าวได้กลับมาให้บริการอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ ราคาหุ้น Fastly พุ่งขึ้นมากกว่า 300% ในปี 2563 โดยได้รับอานิสงส์จากความต้องการใช้บริการอินเทอร์เน็ตมากขึ้น หลังจากที่รัฐบาลออกมาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากขึ้นต้องทำงานและเรียนอยู่ที่บ้าน
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนี CPI ประจำเดือนพ.ค.ของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค หลังจากพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงในเดือนเม.ย.
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนี CPI ประจำเดือนพ.ค.ในวันพฤหัสบดีนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI จะพุ่งขึ้น 4.7% เมื่อเทียบรายปี หลังจากดีดตัวขึ้น 4.2% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2551
นอกจากนี้ คาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะพุ่งขึ้น 3.4% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากดีดตัวขึ้น 3.0% ในเดือนเม.ย.
ก่อนหน้านี้ ดัชนี CPI ของสหรัฐดีดตัวขึ้นสูงเกินคาดในเดือนเม.ย. และหากดัชนียังคงปรับตัวอย่างร้อนแรงในเดือนพ.ค. ก็อาจทำให้เฟดส่งสัญญาณเร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 15-16 มิ.ย.
นักวิเคราะห์ระบุว่า การพุ่งขึ้นของดัชนี CPI ประจำเดือนเม.ย.เมื่อเทียบรายเดือน มีสาเหตุจากการดีดตัวขึ้นของราคาพลังงาน ส่วนการพุ่งขึ้นของดัชนี CPI เมื่อเทียบรายปี มีสาเหตุจากการเปรียบเทียบกับตัวเลขฐานที่ต่ำผิดปกติในเดือนเม.ย.2563 ซึ่งขณะนั้นราคาสินค้าได้ทรุดตัวลงโดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และจากการประกาศมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ซึ่งจะทำให้ตัวเลขดัชนี CPI เมื่อเทียบรายปี ถูกบิดเบือนจากความเป็นจริงต่อไปอีกหลายเดือน เนื่องจากมีการเปรียบเทียบกับราคาสินค้าที่ต่ำผิดปกติในปี 2563