ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 มิ.ย.) เป็นวันที่ 8 ติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ แต่การปรับตัวขึ้นของตลาดเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายขณะรอดูการประชุม 2 วันของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันอังคารและพุธนี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 458.81 จุด เพิ่มขึ้น 0.49 จุด หรือ +0.11%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,639.52 จุด เพิ่มขึ้น 23.17 จุด หรือ +0.35%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,729.52 จุด เพิ่มขึ้น 55.88 จุด หรือ +0.36% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,172.48 จุด เพิ่มขึ้น 25.80 จุด หรือ +0.36%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่องยาวนานที่สุดในรอบกว่า 2 ปี โดยได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไป และนักลงทุนมีความหวังว่า การดำเนินโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่องจะผลักดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปีนี้
บรรดานักลงทุนมุ่งความสนใจในสัปดาห์นี้ไปที่การประชุมนโยบายการเงินเป็นเวลา 2 วันของเฟดในวันอังคารและพุธนี้ เพื่อดูว่าเฟดจะเริ่มหารือเรื่องการปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรหรือไม่ และผู้กำหนดนโยบายของเฟดมีความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นหรือไม่ โดยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่แข็งแกร่งเกินคาดในสหรัฐทำให้เกิดความวิตกว่า เฟดอาจส่งสัญญาณคุมเข้มนโยบายเร็วกว่าคาด
นอกจากนี้ นักลงทุนจะจับตารอการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อจากยูโรโซนในสัปดาห์นี้
หุ้นกลุ่มประกันปรับตัวขึ้นมากที่สุด ขณะที่หุ้นกลุ่มทรัพยากรร่วงลงตามราคาโลหะพื้นฐาน