ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (17 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด โดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงมากที่สุดตามการร่วงลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 459.33 จุด ลดลง 0.53 จุด หรือ -0.12%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,153.43 จุด ลดลง 31.52 จุด หรือ -0.44% ขณะที่ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,666.26 จุด เพิ่มขึ้น 13.61 จุด หรือ +0.20% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,727.67 จุด เพิ่มขึ้น 17.10 จุด หรือ +0.11%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงหลังบวกขึ้นติดต่อกันนาน 9 วัน โดยถูกกดดันจากการที่เฟดเปิดเผยว่า อาจจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงมากที่สุด 2.5% หลังจากความเห็นของเฟดหนุนดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และกดดันราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลง
ส่วนหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มเคมีภัณฑ์ปรับตัวลงมากที่สุดด้วย
แต่หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นสวนทางตลาด หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้น
ตลาดยังถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของยูโรโซนที่เพิ่มขึ้นในเดือนพ.ค. โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาพลังงานและค่าบริการต่างๆ ที่แพงขึ้น
แต่หุ้นกลุ่มเดินทางของยุโรป เพิ่มขึ้น 0.1% ขานรับข่าวอังกฤษกำลังพิจารณาอนุญาตให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้วสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศได้